วิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร รวมไทยสร้างชาติ อยากเห็นโครงการแลนด์บริดจ์เกิดอย่างแรง แต่ติงให้สนข.และหน่วยงานเกี่ยวข้องลงไปให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับชาวบ้านในพื้นที่อย่าทำให้เขาสับสน
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายระหว่างพิจารณารายงานโครงการแลนด์บริดจ์ว่า ตนในฐานะ ส.ส ชุมพร อยู่ในพื้นที่โครงการ ขอฝากถึงสมาชิกและผู้มาชี้แจง ตนไม่ได้มองว่าได้รับผลประโยชน์เฉพาะจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง หรือภาคใต้เท่านั้น แต่โครงการนี้คนทั้งประเทศได้รับผลประโยชน์เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงสิ่งที่มีปัญหาคือ การให้ข้อมูลกับประชาชนในเขตพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นสนข.หรือหน่วยงานภาครัฐยังไม่กระจ่าง การอภิปรายของสมาชิกในสภาฯเอาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว เช่น เกาะตะปู จ.พังงามาไว้ที่ชุมพรซึ่งไม่ใช่ การยกเอาแหล่งท่องเที่ยวที่อื่นมาอ้างไม่ใช่พื้นที่ในจังหวัดชุมพรและระนองเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
นายวิชัย กล่าวว่า ตนในฐานะสส.ชุมพร และเพื่อน สส.ระนองจากพรรคอื่น ก็ได้ไปร่วมรับฟังปัญหาด้วย แต่สิ่งที่ชาวบ้านไม่เข้าใจคือ มีการให้ข้อมูลที่บิดเบือน และไม่ได้เป็นรูปธรรมจากหน่วยงานภาครัฐ สนข.ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะเป็นหน่วยงานที่ศึกษารายละเอียดทั้งหมด ต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า ประชาชนที่เดือดร้อนในตำบลพะโต๊ะ ที่ อ.หลังสวน หรือที่จังหวัดระนอง ได้รับผลกระทบอย่างไร สวนทุเรียนที่เสียหายไม่ใช่เป็นหมื่นไร่ แต่ประชาชนบางคนบางพื้นที่ มีสวนทุเรียนเพียง 20 ไร่ ถูกโครงการทับพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น สนข.ต้องเอาจริงเอาจังในการให้ข้อมูลถ้าอยากให้โครงการนี้เกิดขึ้น
“ถ้าถามชาวจังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง หรือถามผมอยากเห็นโครงการนี้เกิดอย่างแรง เดิมเป็นการขุดคลองไทยผมไม่ยอม เพราะคาบเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง แต่โครงการแลนด์บริดจ์ คนภาคใต้ได้รับประโยชน์ ใครไม่ได้เกิดภาคใต้ใครไม่ได้นั่งรถจากกรุงเทพฯไปสู่ภาคใต้ไม่มีความรู้สึก แต่ผมนั่งรถเดินทางขึ้นลงกรุงเทพฯ – ชุมพรตลอด เวลานั่งรถจะมีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์วิ่งผ่านถนนเพชรเกษม ลงภาคใต้เพียงเส้นเดียว และขออย่ามโนว่าโครงการนี้เกิดขึ้นแล้วไม่คุ้มการลงทุน คนที่มาลงทุนเขามีแนวคิดมีการศึกษาเป็นระบบ และศึกษาดียิ่งกว่าเราที่ให้เขามาลงทุนด้วยซ้ำ ถ้าเขามาลงทุนแล้วขาดทุนเขาคงไม่มาลงทุน”นายวิชัย กล่าว
สส.ชุมพร เขต 1 พรรคครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมกรรมาธิการฯชุดนี้ที่ศึกษา เพราะไม่ได้เป็นผู้ก่อสร้าง แต่คนที่วางโจทก์ คือรัฐบาล ที่จะต้องไปให้ความรู้ความกระจ่างกับคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จะไปเยียวยาจะไปเวนคืน แบบไหนต้องไปดำเนินการ เพราะชาวบ้านบางส่วนไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน
นายวิชัย กล่าวว่า ตนอยากได้โครงการนี้แต่ไม่อยากให้คนในชุมพรและระนองได้รับผลกระทบ การมาชี้แจงต่อสภาฯครั้งนี้ถือว่าเป็นผลดี จึงขอฝากถึงรัฐบาล ผู้มาชี้แจงทั้งหมดว่า ทำอย่างไรให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ในเรื่องการเยียวยา พวกเขายินดีให้โครงการใหญ่ๆ แบบนี้ลงไปในพื้นที่ แต่ต้องมีความชัดเจนเรื่องการเยียวยา โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ต้องให้ความรู้ให้ข้อมูลกับชาวบ้านว่าโครงการแลนด์บริดจ์เป็นผลดีกับชาวระนองกับชาวชุมพร
“ฝาก สนข. ชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจ ไม่ใช่ให้คนที่ไหนก็ไม่รู้มาพูดอยู่ในพื้นที่ เช่น นศ.3 ได้ละไร่ละ 3 ล้าน สปก.ได้ไร่ละ 1 ล้าน คนไม่มีเอกสารสิทธิ์ไม่ได้อะไรเลย หรือได้นิดหน่อย ข้อมูลเหล่านี้ต้องชี้แจงให้ชัดเจน ผมจึงอยากเสนอว่า ให้ประกาศพื้นที่โครงการแลนด์บริดจ์เป็นพื้นที่พิเศษแล้วได้รับเงินเยียวยาเท่ากัน เอาคนที่ได้รับผลกระทบไปอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่า ในปัจจุบันที่ไม่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ผมในฐานะคนพื้นที่คนชุมพร ถ้าถามใจบอกได้เลยอยากให้โครงการนี้เกิดขึ้น แต่ต้องเกิดภายใต้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ไม่เดือดร้อน”สส.ชุมพรเขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว
