ดร.ปรเมษฐ์ จินา สส.สุราษฎร์ธานี รวมไทยสร้างชาติ อภิปรายสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง ปี 2558 เพื่อแก้ปัญหาที่มีมานาน โดยดูปัญหาของแต่ละพื้นที่อย่างเข้าใจ เพราะปัญหาไม่เหมือนกัน
ดร.ปรเมษฐ์ จินา สส.สุราษฎร์ธานี เขต 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายสนับสนุนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง ปี 2558 ว่า การแก้ปัญหาประมงในปี 2558 เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งของรัฐบาลในขณะนั้นที่ต้องปลดล็อคใบแดงใบเหลือง แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีธรรมชาติมีการฟื้นฟูตลอดแนวชายฝั่งปะการังต่างๆกลับคืนมาสู่ธรรมชาติ แต่เวลาผ่านมา 9 ปีชาวประมงได้นำเสนอปัญหาหลายอย่าง ผู้เกี่ยวข้องที่ลงไปดูในพื้นที่พบปัญหาจำนวนมาก เช่น การกำหนดกฎหมายการเดินเรือระหว่างประเทศ การกำหนดพื้นที่ชายฝั่ง หรือการห้ามเครื่องมือทำการประมง ซึ่งการแก้ปัญหาในสิ่งเหล่านี้จะมีแนวทางดำเนินการอยู่หลายอย่าง
ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาด้วย โดยอยากให้จังหวัดได้จัดการตนเองเพราะปัญหาแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน เช่น ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ลักลอบคราดหอยในอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือยิงกันเพื่อแย่งกันทำกิน ปัญหาเหล่านี้ต้องมีการแก้ไขปัญหา คณะกรรมการประมงจังหวัดในร่างกฎหมายที่แก้ไขใหม่ กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ประมงจังหวัดเป็นเลขาฯ ซึ่งในช่วงเกิดสถานการณ์วิกฤตตนได้เข้าไปร่วมแก้ปัญหาให้ อย่างน้อยตนมองว่า ผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องควรจะมีทั้งราชการ ชาวประมงนักวิชาการ ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนร่วมเข้ามาเป็นกรรมการหรือเรียกว่าเบญจภาคี เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาเพื่อความอยู่ดีมีสุขของแต่ละพื้นที่
ดร.ปรเมษฐ์ กล่าวว่า กรณีเรือที่ทำผิด 1 ลำแล้วมีความผิดทั้งอ่าว แบบนี้ต้องปรับปรุง หรือชาวประมงคนเดียวทำผิด ต้องลงโทษชาวประมงทั้งหมู่บ้านก็ต้องแก้ไข รวมถึงค่าปรับที่โหดร้ายเหลือเกิน ก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข
นอกจากนั้น ต้องแก้ไขเพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวประมง เช่น เครื่องมือจับปลาที่เรียกว่าลอบจับปลา หรือไอ้โง่เป็นเครื่องมือทำกินของชาวบ้าน แต่ถ้ามองว่าเป็นการทำลายสัตว์น้ำ ก็ต้องมีการสำรวจถึงความถี่ความห่างของเครื่องมือชนิดนี้ใหม่ ต้องทำให้ชาวบ้านหากินได้ด้วย ขณะเดียวกันต้องอนุรักษ์ทำสัตว์น้ำด้วย
นอกจากนั้น ควรมีการจัดตั้งกองทุน ที่ผ่านมาเราเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลายกลุ่มในช่วงโควิด ชาวประมงก็เช่นกันก็ต้องได้รับการเยียวยาด้วย รวมถึงต้องมีการขึ้นทะเบียนชาวบ้านที่อยู่มานานอาศัยทำกินในพื้นที่ของตัวเอง ต้องดูแลอย่างเป็นระบบมากขึ้น จัดให้ทะเบียนอย่างชัดเจนถ้าทำได้จะสามารถเก็บภาษีนำเงินมาพัฒนาประเทศได้ด้วย
นอกจากนั้นควรให้ชาวประมงได้รวมตัวกันเป็นสหกรณ์ เพื่อได้นำเสนอในสิ่งที่ตนเองต้องการได้อีกทางหนึ่งด้วย