Skip to content
Home » “วิทยา แก้วภราดัย” ร้องให้กระทรวงทรัพยากรฯ ปัดฝุ่นโรงเรียนป่าไม้แพร่ขึ้นมาใหม่

“วิทยา แก้วภราดัย” ร้องให้กระทรวงทรัพยากรฯ ปัดฝุ่นโรงเรียนป่าไม้แพร่ขึ้นมาใหม่

“วิทยา แก้วภราดัย” เรียกร้องให้กระทรวงทรัพยากรฯปัดฝุ่นโรงเรียนป่าไม้แพร่ขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างบุคลากรระดับล่างที่มีทักษะความรู้เพื่อดูแลรักษาป่าอย่างมีวิชาการแท้จริง

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ร่วมอภิปรายระหว่างการพิจารณา ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการตั้งกองทุนรักษาป่าต้นน้ำว่า เห็นด้วยกับการตั้งกองทุนรักษาป่าต้นน้ำ อีกไม่นานเราจะขาดแคลนเจ้าหน้าที่ ที่เชี่ยวชาญเรื่องป่าไม้ ปฏิบัติงานในป่า ตนเคยไปจังหวัดแพร่ เห็นโรงเรียนป่าไม้จังหวัดแพร่ ที่ตั้งขึ้นครั้งแรกในพื้นที่ของบริษัทฝรั่ง ที่ได้รับสัมปทานตัดไม้ เมื่อฝรั่งออกไปก็ยกอาคารบ้านเรือนให้เป็นโรงเรียนป่าไม้จังหวัดแพร่

ทั้งนี้ เมื่อพูดเรื่องป่าไม้ในวันนี้กับเมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมาคนละบรรยากาศ จังหวัดแพร่ก่อตั้งโรงเรียนป่าไม้แพร่ขึ้น เพื่อฝึกผู้ที่มีความชำนาญในกรมป่าไม้ หลังจากนั้นก็เริ่มรับเด็กที่จบมัธยมปลายเข้าไปเรียนต่อหลักสูตร 2 ปี ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน 1 ปี ใช้ชีวิตอยู่ที่ในป่า 1 ปี เพื่อฝึกความพร้อมในการออกปฏิบัติหน้าที่ ป่าไม้รุ่นแรกตั้งแต่ปี 2499 ส่วนใหญ่ออกไปสำรวจป่าเพื่ออนุญาตสัมปทานให้กับเอกชน

เรามีการปิดป่าครั้งแรก เมื่อปี 2531 กรณีเกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ที่ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีไม้ซุงไหลลงมา ประชาชนล้มตายไปเกือบ 300 คน บ้านเรือนพังไปหลายหมู่บ้านหายไปในพริบตา รัฐบาลยุคนั้น จึงประกาศปิดป่าหยุดสัมปทานป่าไม้ทั้งหมด

ตั้งแต่วันนั้นมาเราก็เริ่มคุยกันเรื่องป่าไม้ในเรื่อง การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ป่าไม้ การปลูกป่าเพิ่มขึ้นมา แต่วันนี้เราต้องป้องกันป่าที่ไม่ให้ถูกรุกรานจากกลุ่มทุน ที่ทำลายป่าอยู่ทุกวัน

นายวิทยา กล่าวว่า โรงเรียนป่าไม้แพร่เราปิดไปตั้งแต่ปี 2536 ตนจึงบอกว่าจะเกิดวิกฤตวันข้างหน้า เราจะไม่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระดับปฏิบัติการเหลือในประเทศนี้ เราจะมีแต่นักวิชาการที่จบวารสารศาสตร์ จบปริญญาตรีแล้วก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องป่าไม้ เกินครึ่งเป็นสุภาพสตรี ตนไม่ได้ว่าว่า สุภาพสตรีจะเก่งหรือไม่เก่ง แต่ในการปฏิบัติการจริงๆโรงเรียนป่าไม้แพร่เมื่อ 60 กว่าใช้นักเรียนชายทั้งหมดและใช้ชีวิตฝึกอยู่ในป่า เหลือเวลาอีกสัก 4 -5 ปี นักเรียนป่าไม้แพร่รุ่นสุดท้ายเกษียณหมด จะมีเหลือแต่ลูกจ้าง ซึ่งได้รับค่าจ้างเดือนเดือนละ 9,000 บาท ออกป่าปีละ 15 วัน อยู่ในป่าใช้ชีวิต 14-15 วันก็จะได้เงินช่วยเหลืออีก 2,000 บาท คนเหล่านี้จะทำหน้าที่ดูแลป่าทั้งหมด

“ผมพูดเรื่องนี้ผ่านไปยังรมว.ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ให้กลับไปดูพื้นที่โรงเรียนป่าไม้แพร่ ถูกทิ้งร้างมา 30 ปี กลายเป็นพื้นที่ทำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรื่องโรงเรียนป่าไม้ไปแล้ว โรงเรียนป่าไม้แพร่มีพื้นที่ฝึกภาคสนามหลายพันไร่ผมเคยไปดู ถ้าดูความจำเป็นจริงๆวันนี้เราสร้างนักเรียนนายร้อยอย่างเดียวไม่พอ ป่าไม้เช่นเดียวกัน ถ้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯไม่ปัดฝุ่นเตรียมตัวเลยอีก 5 ปีข้างหน้าจะไม่เหลือนักเรียนป่าไม้แพร่อยู่ในกระทรวงนี้แม้แต่คนเดียว”นายวิทยากล่าว

อย่างไรก็ตาม เรายุบโรงเรียนป่าไม้แพร่วันนั้นไปเพราะนโยบายคณะรัฐมนตรี บอกว่า ทุกกรมที่มีหน่วยงานผลิตการศึกษาการเล่าเรียนอยู่ประจำกรม เพื่อบรรจุในกรมตัวเองให้ยุติทั้งหมด แต่ยังยุติไม่หมด วิศวะชลประทานยังเปิดอยู่ โรงเรียนไปรษณีย์ยังมีอยู่ แล้วทำไมป่าไม้แพร่ที่เพื่อนสมาชิกเรียกร้องการดูแลป่าอย่างครบถ้วน อย่างมีวิชาการ อย่างพิทักษ์รักษาจริงๆ ทำไมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯไม่คิด

“น่าจะถึงเวลาทบทวนดูว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่ดูแลกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ จะต้องไปปัดฝุ่นโรงเรียนป่าไม้ แล้วยกโรงเรียนป่าไม้ขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบุคลากรในระดับล่าง ที่จะลุยรักษาป่าอย่างผู้มีวิชาการจริงๆ”นายวิทยา กล่าว

“เราพูดกันเรื่องรักษาป่าแต่ถ้าเราไม่มีคนที่จะลงไปรักษาป่าจริงๆก็ลำบาก ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้ารัฐบาลจะรับไปขอให้ช่วยไปคุยกับ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมด้วยว่า คืนโรงเรียนป่าไม้ให้กับป่าไม้ด้วย” นายวิทยากล่าว