Skip to content
Home » “วิทยา แก้วภราดัย” เรียกร้องสส.ในสภาตกผลึกจะแก้รัฐธรรมนูญประเด็นไหน

“วิทยา แก้วภราดัย” เรียกร้องสส.ในสภาตกผลึกจะแก้รัฐธรรมนูญประเด็นไหน

“วิทยา แก้วภราดัย” เรียกร้องสส.ในสภาตกผลึกจะแก้รัฐธรรมนูญประเด็นไหน โดยฟังเสียงความต้องการประชาชน ย้ำไม่เซ็นเช็คเปล่าเด็ดขาด ถ้ายังไม่รู้ว่าสสร.จะแก้รธน.พาบ้านเมืองไปทางไหน

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปรายให้ความเห็นระหว่างการพิจารณารับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจัดทำข้อเสนอระบบการเลือกตั้ง และแนวทางการทำงาน ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจาก การเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนพิจารณาเสร็จแล้ว ว่าได้ติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง ฟังอย่างชาวบ้านได้ข้อเท็จจริงว่า การจะตั้งสสร. มาเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะพวกเรารู้สึกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่าที่มาไม่ชอบ เผด็จการเป็นคนเขียนให้ แต่ทิศทางว่าจะแก้ไปทางไหนยังไม่ชัดเจน

นายวิทยา กล่าวว่า ตนนั่งดูสภาฯชุดที่แล้วมา 4 ปี คิดออกเรื่องเดียว ที่สภาฯ คิดแก้รัฐธรรมนูญคือ เรื่องบัตรใบเดียวกับบัตรสองใบ มาวันนี้เรามาพูดเรื่องเดิมอีกแล้ว คิดจะตั้งสสร.ขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญที่มีที่มาที่เราไม่ชอบ แต่โดยสภาพความเป็นจริง พวกเราเป็นผลผลิตจากสิ่งที่เราไม่ชอบทั้งสิ้น ยังคิดไม่ออกว่า นอกจากไม่ชอบที่มาเกลียดตัวแล้วจะกินไข่หรือเปล่า คิดออกหรือยังรัฐธรรมนูญที่คิดจะแก้ใหม่ทั้งฉบับ มีปัญอะไรกี่เรื่อง แล้วจะแก้เรื่องอะไรบ้าง ต้องบอกให้ได้ว่า จะให้คนนอกไปแก้จะแก้เรื่องอะไร

ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน หัวใจหลักของรัฐธรรมนูญความเป็นประชาธิปไตยเรื่องเดียว คือ การค้ำประกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในประเทศ ถ้าสิทธิเสรีภาพประชาชนละเมิดง่ายด้วยอำนาจไม่เป็นประชาธิปไตย ที่บอกกันว่าจะเลือกสสร.ในใจพรรคการเมืองในทุกพรรคก็คิดว่า ต้องหาคนของพรรคการเมืองมาเป็นสสร.ให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ เหตุผลเพื่อจะได้เอาตามใจที่พรรคคิด แต่กระบวนการในการสรรหาถ้าผ่านการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่มีใครเชี่ยวชาญเท่ากับ 500 คนในสภาฯ นักวิชาการอย่าสะเออะขึ้นมา 500 คนในสภาฯฝีมือที่สุดแล้วในแผ่นดิน กกต.ก็ไล่ไม่ทัน ถ้าไล่ทันจนป่านนี้ยังประกาศใบแดงไม่ได้สักใบ กลายเป็นว่า ทุกคนในที่นี้กลายเป็นคนขาวสะอาดท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ระบอบประชาธิปไตยเราก้าวไปสู่หายนะ เมื่อประชาชนต้องการเงิน แล้วก็ตัดสินใจง่าย เราเห็นการซื้อเสียงกลายเป็นเรื่องปกติ

นายวิทยา กล่าวว่า ตนนั่งฟังมานานว่าอยากแก้รัฐธรรมนญเรื่องไหนมาก จะมาบอกว่าให้เปลี่ยนเสื้อตัวนี้ ให้คนอื่นมาตัดให้ใหม่ ตัดมาแล้วก็เหมือนเดิมอีก แล้วตนจะต้องชวนประชาชนไปหมดเงินเป็นมืหมื่นล้าน เพื่อให้ได้เสื้อตัวใหม่ ซึ่งเหมือนกับเสื้อตัวเดิม ไม่มีหลักประกันในการเดินไปข้างหน้า ทุกหมวดเขาเขียนไว้หมดกระทบไม่ได้ ถ้ากระทบเป็นขอให้บอกกันตรงๆ อยากแก้เรื่องไหน วิธีการจะสรรหาสสร. ตนรับได้ แต่ตนไม่เคยเชื่อจะได้สสร.มาอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม อย่าวาดหวังไว้มากว่าจะได้สสร.วิเศษวิโส ได้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเลิศเลอดีที่สุดไม่มีที่ไหนในโลกเทียบเท่าฝันไปเถอะ

“วันนี้นักการเมืองยัดเยียด ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ต้องแก้ทั้งฉบับ ตั้งสสร.ประชาชนทั้งประเทศสงสัยจะแก้ไขอย่างไร ใครจะเป็นสสร. ผมคิดว่าใช้เวลาตรองสักนิด ให้คำตอบกับประชาชนทั้งประเทศ เราเป็นตัวแทนชาวบ้าน ฟังคำตอบจากชาวบ้านว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขารู้สึกว่าไม่ดีตรงไหน แล้วมาช่วยกรองกัน อย่างน้อยตั้งเป็นธงจากสภาฯ ต้องรู้อยากแก้ตรงไหน อย่าคิดจะเปลี่ยนเสื้อตัวนี้อย่างเดียว เพราะเสื้อตัวนี้ไม่สวย คนตัดไม่ใช่ช่าง อย่าพาประเทศไปอย่างนั้น ช่วยกันขายความคิดที่มาจากประชาชน นำมาอภิปรายกันในสภาฯ เพื่อคุมว่าจะเขียนอะไรใส่มือคนที่เราจะมอบอำนาจให้ แต่อย่าเขียนเช็คเปล่าให้เขา ผมไม่เซ็นเช็คเปล่าเด็ดขาดถ้าไม่รู้ว่า จะพาบ้านเมืองไปทางไหน”นายวิทยา กล่าว