Skip to content
Home » “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” เสนอให้สภาฯศึกษาแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง

“อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” เสนอให้สภาฯศึกษาแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง

“อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” สส.รวมไทยสร้างชาติ เสนอญัตติให้สภาฯตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง หนุน รมว.พลังงาน นำหลายมาตรการมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้อภิปรายระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเสนอญัตติ ขอให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ว่า ตนได้เสนอญัตติฯดังกล่าวตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา เดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาล เป็นช่วงที่ประชาชนมีความทุกข์ใจและทุกข์กายกินไม่อิ่มนอนไม่หลับเพราะรายได้ไม่พอ ตนเมื่อมีโอกาสกลับมาเป็นสส. เมื่อได้รับรู้ความทุกข์ก็ได้ทำญัตตินี้เสนอต่อสภาฯให้พิจารณาเรื่องของการแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟฟ้าแพง

ทั้งนี้ หลังจากมีการตั้งรัฐบาลขึ้นมา โดยการนำของนายกเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เข้ามารับผิดชอบกระทรวงพลังงาน ได้มีความมุ่งมั่นจะลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในเรื่องของพลังงานทั้งค่าไฟ ค่าน้ำมัน และแก๊สหุงต้ม ซึ่งนายพีระพันธุ์ได้มาแถลงนโยบายจะปฏิรูปทั้งระบบทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจที่สร้างภาระค่าใช้จ่ายเกินสมควรให้กับพี่น้องประชาชน

นายอัครเดช กล่าวว่า ผ่านมาระยะหนึ่งกระทรวงพลังงานภายใต้การบริหารของนายพีระพันธุ์ ประกาศว่าจะลดค่าไฟจาก 4 บาทกว่าต่อหน่วย มาเป็น 3.99 บาทต่อหน่วย เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนไปหลายเดือน จนปัจจุบันนี้ขึ้นมา 4.19 บาทต่อหน่วยสำหรับประชาชนทั่วไป ส่วนประชาชนที่มีรายได้น้อยใช้ไฟไม่มากก็ยังได้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย นี่คือสิ่งที่รัฐบาลได้ทำตามสัญญาคือแผนระยะสั้น ส่วนแผนระยะยาวต้องไปแก้กฎหมายซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการที่จะปฏิรูปโครงสร้างราคาไฟฟ้าทั้งระบบ

สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพูดถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่มีการลดกำไรลงเนื่องจากนโยบายของรมว.พลังงานไปดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อไฟถูกลงกระทั่งในพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มีสส.ในโพสต์ในโซเชียลว่าค่าไฟที่ลดลงอาจจะทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตล้มหายตายจากเป็นภาระให้กับประชาชน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เป็นเพียงการคาดการณ์ รมว.พลังงานก็ได้ชี้แจงไปแล้วการตั้งรัฐวิสาหกิจ ไม่ได้แสวงหากำไร รัฐวิสาหกิจไหนกำไรมากก็เอากำไรกลับคืนมาให้ประชาชน แล้วจะไม่ชื่นชมรมว.พลังงาน หรือต้องการรมว.พลังงานที่ไปอู้มชูรัฐวิสาหกิจที่กำไรมากๆปันผลเยอะๆ แล้วมาเอาเปรียบพี่น้องประชาชนหรือ

“การที่นายพีระพันธุ์นำกำไรจากรัฐวิสาหกิจมาอุ้มค่าไฟมาลดค่าไฟให้กับพี่น้องประชาชน จึงดำเนินการที่สมควรแก่กรณีแล้ว แต่ทำยังไงให้รัฐวิสาหกิจไม่ขาดทุนเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีต้องไปทำต่อ สำหรับการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ต้องมาแก้กฎหมายต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นปี กระบวนการมีมากใช้เวลานาน การปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงานก็คือการแก้กฎหมาย เป็นการแก้ปัญหาพลังงานที่ยั่งยืนก็ต้องให้เวลารัฐบาลในการดำเนินทำให้มันเกิดความสมดุล จะทำยังไงอย่าให้รัฐวิสาหกิจไปเอาเปรียบพี่น้องประชาชน”นายอัครเดชกล่าว

นายอัครเดชกล่าวว่า การปฏิรูปกฎหมายก็ต้องใช้เวลา คนไทยโชคที่ได้นายพีระพันธุ์ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาทำการปฏิรูปโครงสร้างโดยผ่านการแก้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ.ปิโตรเลียม หรือ พ.ร.บ.พลังงาน จะได้คืนความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศผ่านการปฏิรูปกฎหมายสิ่งนี้เป็นแผนระยะยาว ซึ่งแผนระยะยาวอีกอย่างคือ สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานทดแทน การสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนใช้รถอีวี ขณะนี้รัฐบาลก็ดำเนินการมาเป็นรถอีวี 3.5 แล้ว สมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีก็ใช้อีวี 3.0 มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแพร่หลายมาก รัฐบาลนี้ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้ใช้รถอีวีราคาที่ถูกลง แต่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นลดการนำเข้าน้ำมัน สอดคล้องกับสภาฯได้ออกกฎหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5

นายอัครเดช กล่าวว่า เหล่านี้คือสิ่งที่รมว.พลังงานและรมว.อุตสาหกรรมในรัฐบาลของนายเศรษฐาทำอยู่ คือการสนับสนุนรถอีวี เมื่อเราใช้รถอีวีจะลดการนำเข้าน้ำมันสิ่งที่เราได้คือ ลดการขาดดุลการค้า จากการนำเข้าน้ำมันมหาศาล เราได้อากาศที่สะอาดพี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นโรคภัยไข้เจ็บไม่ต้องไปเสียเงินในการรักษาพยาบาล สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ตามมาตรการต่างๆ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรจึงยื่นญัตติมาก่อน แต่พอญัตติของตนเข้ามาสู่สภาฯ ทราบมาตรการของรัฐบาลแล้วจึงไม่ได้ถอนญัตติ อยากจะเห็นมุมมองของสส.ว่าจะเสนออะไร รัฐมนตรีก็อยากได้มุมมองของสส.ในชั้นการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ที่เป็นผลการศึกษา ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านได้หารือกันในวิปรัฐบาลว่า จะส่งเรื่องให้กรรมาธิการพลังงานไปดำเนินการต่อ จะพิจารณาเองหรือตั้งอนุกรรมาธิการฯ ขอให้สภาฯช่วยพิจารณาว่าจะส่งให้กรรมาธิการพลังงานดำเนินการเพื่อส่งให้รมว.พลังงานหรือไม่