“อัครเดช” บอก รทสช. ยังไม่ชงร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข เข้าสภา รอถกวิปรัฐบาล หรือตั้งกมธ. พิจารณาให้ตกผลึก เผื่อรวมร่างเดียวเสนอเพื่อรวดเร็ว ชี้นิรโทษกรรมยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ขอโฟกัส งบ 67 ก่อน เหตุรออัดฉีดเม็ดเงิน
วันที่ 18 ธ.ค.2566 เวลา 13.00 น. รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวถึงการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. … ว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่จะสร้างเสริมให้สังคมไทยมีความสมัครสมานสามัคคี โดยจะเว้นโทษทางการเมืองให้กับผู้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง แต่จะไม่งดเว้นให้กับกลุ่มผู้ที่ละเมิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่องการทำร้ายร่างกายจนทำให้ถึงเสียชีวิต และไม่งดเว้นโทษในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะนี้จะมีการหารือกันในวิปรัฐบาลว่า จะมีการนำเสนอเมื่อไหร่ และต้องมีการหารือกับพรรคอื่นว่า จะมีการเสนอร่างประกบหรือไม่ เพราะคิดว่าร่างกฎหมายดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งสามารถรวมพิจารณาเป็น พ.ร.บ.เดียวกันได้
เมื่อถามว่า หากมีร่างกฏหมายของรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวแยก หรือรวม นายอัครเดช กล่าวว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องการที่จะเสนอร่างดังกล่าวในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันในวิปรัฐบาลก่อน และขณะนี้เรายังไม่ทราบว่า มีพรรคใดบ้างที่จะเสนอร่างกฏหมายที่มีลักษณะคล้ายกัน ฝ่ายรัฐบาลเห็นมีแค่ทางพรรคเพื่อไทย ส่วนฝ่ายค้านก็มีพรรคก้าวไกล พรรคอื่นๆ คงต้องรอฟัง และพิจารณาร่วมกันในวิปอีกครั้ง
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ นายอัครเดช กล่าวว่า เราจะมาหารือกันในวิปรัฐบาลเพื่อศึกษาในเรื่องดังกล่าว แต่การตั้งกมธ.ขึ้นมาศึกษาให้ตกผลึกก็เป็นเรื่องดี ที่จะได้มีการหารือกันก่อนจะนำเข้าสู่สภาใหญ่ นำความเห็นของแต่ละพรรคมาถกก่อนที่จะนำเสนอร่างกฏหมายรวมกัน ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลได้ข้อสรุปร่วมกัน ก็อาจจะเสนอเป็นร่างเดียวกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการออกกฎหมาย ที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และไม่ให้เกิดการโต้แย้งกันในสภาฯ
เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะยังไม่ยื่นร่างกฏหมายดังกล่าว จนกว่าจะได้ข้อสรุปจากพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ใช่ เพราะทางหัวหน้าพรรคได้เตรียมความพร้อมในด้านกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ส่วนขั้นตอนการเสนอต้องรอความพร้อมของวิปรัฐบาล เพราะเมื่อเข้าสู่ชั้นการพิจารณา ก็จะเป็นไปตามระเบียบวาระของสภาฯ หากมีพรรคการเมืองใดที่เสนอคล้ายกันประธานสภาฯ สามารถรวมการพิจารณาได้
เมื่อถามว่า เนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้ เป็นเนื้อหาเดียวกันกับของ นพ.ระวี มาศฉมาดล อดีต สส.พรรคพลังธรรมใหม่ ที่เคยยื่นเข้าสภาฯ ในสมัยที่แล้วใช่หรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ตนไม่ทราบที่มาในส่วนของผู้ริเริ่ม แต่ฝ่ายกฎหมายของพรรคเป็นผู้ดำเนินการ ตนมีหน้าที่นำกฎหมายมาหารือในชั้นวิปรัฐบาล ซึ่งในที่ประชุมวันนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ แต่ถ้ามีวิปรัฐบาลคนใดหยิบยกขึ้นมาหารือ ตนก็พร้อมเสนอ คงต้องรอดูความพร้อมของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตามกฎหมายนิรโทษกรรมยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนเท่าไหร่ แต่ต้องทำเรื่องพ.ร.บ.งบประมาณฯก่อนเพราะขณะนี้หน่วยราชการ และประชาชนกำลังรอเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีความฝืดเคือง ส่วนกฎหมายนิรโทษกรรมคงต้องเรียงลำดับเข้าพิจารณา