“พงษ์มนู ทองหนัก” สส.รทสช. วังทอง – เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เร่ง ชลประทานจังหวัดสร้างพนังกั้นน้ำแก้ปัญหาแคววังทองล้นตลิ่งท่วมไร่นา หนุนประชาชนได้รับประโยชน์ในทำกิน
เมื่อวันที 11 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายพงษ์มนู ทองหนัก สส.จ.พิษณุโลก (วังทอง-เนินมะปราง) พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในระหว่างการประชุมสภาฯ ว่าช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่หลังจากได้รับการร้องเรียนจาก นายสมพร ทัดแพ นายก อบต.วังทอง นายอาทิตย์ อินคำ กำนัน ต.วังทองและ นางพีรกานต์ ทองเชื้อ นายก อบต.วังพิกุล และนายเสน่ห์ จิตรจรัส กำนัน ต.วังพิกุล ว่าประชาชน ต.วังทอง,วังพิกุล,แม่ระกา,บึงพระ และ สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่มักจะได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับปัญหาน้ำ
“โดยเฉพาะหากเป็นฤดูฝนตามปกติ แต่เป็นปีที่ฝนตกน้อยจะไม่ได้รับความเดือดร้อน แต่ถ้าเป็นปีที่ฝนตกมากประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากน้ำในแคววังทองจะล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร และท่วมไร่นาของชาววังพิกุล,วังทอง แม่ระกา รวมถึงพี่น้องในเขต อ.บางกระทุ่ม ได้รับความเสียหายนับเป็นหมื่นๆ ไร่ มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท” นายพงษ์มนู กล่าว
นายพงษ์มนู กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา เมื่อปี พ.ศ.2553 นายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เสนอโครงการและของบประมาณจากรัฐบาล และรัฐบาลยุคนั้นได้อนุมัติงบประมาณไปดำเนินการประมาณ 70 ล้านบาท แต่ว่ากรมชลประทาน จังหวัดพิษณุโลกได้ทำเรื่องและทำพนังกั้นน้ำในแคววังทองระยะทางประมาณฝั่งละ 15 กิโลเมตรจาก ต.วังทองผ่านวังพิกุลไปแม่ละกาไปบึงพระ แต่เนื่องจากชลประทานจังหวัดพิษณุโลกได้แบ่งโครงการเป็น 2 ตอน
โดยส่วนของ/ตอนที่ 1 ได้ทำเสร็จไปแล้ว แต่ตอนที่ 2 ยังไม่ได้ดำเนินการ จากช่วงเวลาดังกล่าวจนถึงขณะนี้เป็นเวลา 13 ปีแล้ว การก่อสร้างพนังกั้นน้ำตอนที่สองก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการต่อแต่อย่างใด
นายพงษ์มนู กล่าวย้ำว่า อยากฝากไปยังกรมชลประทานชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กรมโยธาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้นำงบประมาณมาทำพนังกั้นน้ำในเขต ต.วังทอง วังพิกุล อำเภอวังทอง เพื่อคลายความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ลืมตาอ้าปากบ้าง เพราะงบประมาณลงทุนนี้ประมาณ 35 ล้านบาท แต่ว่าไร่นาของประชาชนเสียหายนับหมื่นไร่ มูลค่าสูญเสียหลายร้อยล้านบาท
“ผมจึงเชื่อว่า ถ้ารัฐบาลทำพนังกั้นน้ำแล้ว ประชาชนจะได้รับประโยชน์เป็นเงินไปหลายร้อยบาทล้าน มากกว่าการได้ประโยชน์จากที่ได้รับจากเงินดิจิทัลอย่างแน่นอน”นางพงศ์มนู กล่าว