Skip to content
Home » ศาสตรา ศรีปาน ถามคมนาคมถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ภาคใต้

ศาสตรา ศรีปาน ถามคมนาคมถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ภาคใต้

ศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา รวมไทยสร้างชาติ ตั้งกระทู้ถาม รมว.คมนาคมกลางสภาฯความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ภาคใต้ และการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน

เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ยื่นกระทู้ถามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เรื่อง ความคืบหน้า โครงการรถไฟรางคู่สายใต้ล่าช้า ว่า ตนเป็นตัวแทนของชาวหาดใหญ่ และประชาชนชาวภาคใต้ขอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องรถไฟทางคู่ที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้ทำไว้ และอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ได้ทำต่อไป แต่เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้มีใจความตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีนโยบายการลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งระบบราง ทั้งในระยะกลางและระยะยาว

ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยเพราะการขนส่งของไทยส่วนใหญ่เป็นทางบกแทบทั้งสิ้น รถไฟทางคู่จะช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่ง ดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามา อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่สำคัญรถไฟทางเดี่ยวทั่วประเทศ 4,044 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาในการสับราง เสียเวลามาก ปัจจุบันไม่ทันนานาประเทศแล้ว

นายศาสตรา กล่าวต่อว่า วันก่อน รมว.คมนาคม ไปดูระบบรถไฟทางคู่ที่ จ.ขอนแก่น เพราะจะมีรถไฟทางคู่ทั่วประเทศไทย จากขอนแก่นไปหนองคาย จากหนองคายไปที่ประเทศสปป.ลาว จากนั้นจึงต่อไปประเทศจีนได้ ตนก็รู้สึกดีใจที่จะทำให้สามารถดึงเงินเข้าประเทศมาได้มาก แต่เมื่อตนกลับไปในพื้นที่ในภาคใต้ ประชาชนชาวภาคใต้มาแจ้งว่ารู้สึกไม่มั่นใจ เพราะที่ผ่านมารมว.คมนาคมไม่ค่อยเดินทางมาภาคใต้ จึงกลัวว่า โครงการรถไฟทางคู่สายใต้จะไม่เสร็จตามระยะเวลาที่ควรจะเป็น จากกรุงเทพ -นครปฐม – หัวหิน – ประจวบฯ – ชุมพร – สุราษฎร์ฯ – นครศรีธรรมราช – สงขลา – หาดใหญ่ ผ่านปาดังเบซาร์แล้วออกไปมาเลเซีย ประชาชนคนใต้หวังอยากจะเห็นคือรถไฟทางคู่เสร็จ จึงอยากทราบว่า โครงการรถไฟทางคู่สายใต้ดำเนินการถึงไหนแล้ว และจะเสร็จเมื่อไหร่

นอกจากนั้น ประชาชนฝากถามเรื่องการเยียวยาประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินจากการนำพื้นที่ไปสร้างรถไฟ เช่น พื้นที่ อ.หาดใหญ่ จะมีชุมชนป้อม หก, ถนนเทียนจ่ออุทิศ เป็นต้น ตนได้ลงพื้นที่ไปเพื่อประสานกับทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และการรถไฟฯเพื่อที่จะสร้างบ้านมั่นคง เยียวยาให้กับประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน ดังนั้นจึงขอสอบถามว่า กระทรวงคมนาคมมีการดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนก่อนที่จะมีรถไฟทางคู่ผ่านในบริเวณชุมชนอย่างไร

สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า อยากทราบความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะหลังจากที่ตนได้อภิปรายในสภาฯ ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็พบว่า มีคนสนใจมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลจนกลายเป็นกระแสเซฟแลนด์บริดจ์ จึงอยากให้รมว.คมนาคมตอบคำถามนี้ที่อาจจะส่งคำตอบมาที่ตนโดยตรงได้ เนื่องจากแลนด์บริดจ์จะสร้างเศรษฐกิจให้ประเทศไทย เป็นการเชื่อมระหว่างทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทย ทิศทางการขนส่งจากสิงคโปร์จะมาอยู่ที่ประเทศไทยทันที นี่คือความคาดหวังของคนไทย

ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ตอบกระทู้ถามของนายศาสตรา แทนรมว.คมนาคม โดยระบุว่า รัฐบาลเน้นปรับปรุงรถไฟรางคู่ พร้อมเชื่อมเครือข่ายทั้งหมดของรถไฟ โดยรถไฟรางคู่สายใต้ระยะ 1 มี 3 โครงการ คือ โครงการหัวหิน -ประจวบฯ ระยะทาง 84 กิโลเมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จ ส่วนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างคือ นครปฐม – หัวหิน 169 กิโลเมตร ส่วนที่ 3 ประจวบฯ – ชุมพร 167 กิโลเมตร แล้วเสร็จทั้งหมด 93.8% บางสะพาน – ชุมพร 97.14% โดยระยะที่ 1 คาดว่า แล้วเสร็จและเปิดทำการใช้ประมาณวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ส่วนระยะที่ 2 สิ้นสุดที่ปาดังเบซาร์คาดว่า จะแล้วเสร็จ ประมาณปี พ.ศ.2572-2573 ปัจจุบัน การสำรวจออกแบบเรียบร้อยผ่านประชาคมเรียบร้อยทุกอย่าง พร้อมเสนอ ครม.

สำหรับ การเยียวยาในส่วนผู้ที่มีสัญญาเช่าอย่างถูกต้องเมื่อย้ายแล้ว จะมีค่าเยียวยาแล้วก็ให้ทำสัญญาเช่าที่รถไฟในพื้นที่ใหม่ ส่วนผู้ที่เป็นผู้บุกรุกจะเข้าสู่กระบวนการจัดหาที่อยู่อาศัยและที่ดินของการรถไฟผ่านคณะกรรมการจังหวัด ส่วนผู้ที่บุกรุกแล้วไม่เข้าสู่กระบวนการจะมีค่าเยียวยาการรื้อถอนให้

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นโครงการแลนด์บริดจ์ รมช.คมนาคมจะส่งคำตอบไปยังนายศาสตราโดยตรงต่อไป