สส.รวมไทยสร้างชาติ จี้“ทส.-มท”เร่งแก้ปัญหาที่ดินหมดสัมปทานนำมาจัดสรรให้ชาวบ้านเข้าทำกินอย่างถูกกฎหมาย
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่รัฐสภา ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ดร.ปรเมษฐ์ จินา สส.สุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาหารือในสภาฯ ว่า ประชาชนในพื้นที่ได้ร้องเรียนเรื่องความเดือดร้อนเรื่องของถนนสาย 4009 ในพื้นที่ อ.พระแสง จาก สะพานข้ามแม่น้ำตาปี ถึง ถนนสาย 44 (เซาเทิร์น) ที่ชาวบ้านเรียกว่าถนนสาย 3 ค.คือ โค้งตลอดสาย แคบ และ ควน หรือเป็นเนิน และที่สำคัญเพิ่มอีก 1 ค. คือ คร่าชีวิตผู้คนด้วย โดยทุกสัปดาห์จะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากถนนสายนี้ ชาวบ้านจึงขอฝากให้ช่วยเร่งแก้ปัญหานี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนเส้นที่ 2 ได้แก่ ถนนสาย 401 จากที่ว่าการอำเภอพนม ถึง อุทยานแห่งชาติเขาสก เนื่องจากถนนสายนี้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างอันดามัน กับอ่าวไทย ทำให้มีรายได้ทางเศรษฐกิจเข้ามาสู่ประเทศชาติปีละไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องถนนให้ดีด้วย
ดร.ปรเมษฐ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สองเป็นเรื่องของสิทธิทำกิน โดยเฉพาะในเรื่องสินทรัพย์ที่หมดอายุแล้ว เช่น ยางพาราที่หมดอายุแล้วไม่สามารถโค่นได้ ทำให้เป็นปัญหาในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และกระทรวงมหาดไทย ที่ดูแลเรื่องที่ดินหมดสัมปทานของรัฐ
ทั้งนี้ ปัญหานี้ชาวบ้านดิ้นรนมาก แต่ไม่มีใครแก้ไขได้ ที่ผ่านมาต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ที่ได้ลงพื้นที่ไปดูปัญหาความเดือดร้อน และในวันที่ 6 กันยายนนี้ อำเภอไชบุรีจะเป็นพื้นที่นำร่องในการมอบเอกสารสิทธิที่ดินให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินในพื้นที่ที่เป็นสัมปทานในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ รวมทั้งที่สงวนถ่านหิน และหลายพื้นที่ของราชการ จึงอยากให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐเพื่อให้ชาวบ้านสามารถพึ่งพาได้
สำหรับ ประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องของท้องถิ่นทุกแห่งที่ฝากมาว่าหากมีโอกาสให้ไปรื้อระบบอุทธรณ์การจัดซื้อจัดจ้าง จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงเดือนกันยายนจะมีการพักงบประมาณ และเป็นไปได้ที่จะต้องมีการการันตีว่าถ้าอุทธรณ์แล้วผลยังเหมือนเดิม คนอุทธรณ์จะต้องมีค่าปรับ จึงอยากฝากไปยังกรมบัญชีกลาง และกระทรวงมหาดไทยให้รื้อระบบดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาด้วย
