Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the happy-elementor-addons domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/unitedthaination.or.th/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the neve domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /var/www/vhosts/unitedthaination.or.th/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114
“สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์”โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงละเอียดยิบโครงการไฟฟ้าโซลาร์ - พรรครวมไทยสร้างชาติ
Skip to content
Home » “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์”โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงละเอียดยิบโครงการไฟฟ้าโซลาร์

“สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์”โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงละเอียดยิบโครงการไฟฟ้าโซลาร์

“สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์”โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงละเอียดยิบโครงการไฟฟ้าโซลาร์หวั่นประชาชนเข้าใจผิด หลัง “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล”แสดงความเห็นทำให้เกิดความสับสน

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ตอบโต้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล มีข้อความว่า คุณธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ได้แสดงความเห็นใน facebook ส่วนตัวเรื่องไฟฟ้าโซลาร์จึงเห็นว่า ข้อมูลที่นำเสนอไม่ครบถ้วน และไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด จึงขอชี้แจงดังนี้

การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 8,900 เมกะวัตต์การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 8,900 เมกะวัตต์ เป็นการทยอยรับซื้อในระยะเวลา 6 ปีตั้งแต่ปี 2567-2573 เป็นพลังงานสะอาด ราคาถูก ไม่มีค่าพร้อมจ่าย โดยมีราคารับซื้อเพียง 2.0724-3.1014 บาท/หน่วยเท่านั้น ช่วยทำให้ค่าไฟของประเทศถูกลง เพราะไม่ได้ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความผันผวนด้านราคาสูงที่เป็นสาเหตุให้ค่าไฟแพงในตอนนี้

พลังงานหมุนเวียนที่รับซื้อ 8,900 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตพึ่งได้เพียง 3,700 เมกะวัตต์ เพราะการผลิตไฟฟ้าจากพลังหมุนเวียนไม่สามารถผลิตได้ 24 ชั่วโมงเหมือนโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติ เช่นไฟฟ้าจากโซลาฟาร์ม กลางคืนผลิตไม่ได้หรือไฟฟ้าพลังลม ถ้าลมไม่พัดก็ผลิตไม่ได้

ในช่วงปี 2567-2573 จะมีโรงไฟฟ้าฟอสซิลขนาดใหญ่ที่มีค่าพร้อมจ่ายหมดอายุ ถูกปลดออกจากระบบคิดเป็นกำลังผลิตประมาณ 9,800 เมกะวัตต์ การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 8,900 เมกะวัตต์ ที่มีกำลังการผลิตพี่งได้ 3,700 เมกะวัตต์ เป็นการทดแทนโรงไฟฟ้าฟอสซิลที่จะถูกถอดออกจากระบบ การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนยังเป็นความจำเป็นของประเทศที่จะต้องเพิ่มปริมาณไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อดึงดูดการลงทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาดของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเดิม และอุตสาหกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ความเข้าใจผิดในเรื่องการซื้อไฟจาก Solar Rooftop และ Solar Farm รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองมานานแล้ว โดยกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้กลับคืนเข้าระบบในราคา 2.2 บาทต่อหน่วย ซึ่งสูงกว่าอัตรารับซื้อไฟฟ้าจาก Solar Farm เอกชนรอบล่าสุดที่กำหนดไว้ที่ 2.1679 บาทต่อหน่วย

ปริมาณไฟฟ้าที่รับซื้อของ Solar Rooftop กับ Solar Farm เป็นคนละส่วนกัน ไม่ทับซ้อน ไม่แข่งขันกัน แต่ทั้ง 2 ส่วนช่วยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเหมือนกัน

Net Metering อย่าผลักต้นทุนไฟ Rooftop ไปให้ผู้ใช้ไฟ 22 ล้านครัวเรือน การรับซื้อไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วยหรือ Net Metering เป็นเรื่องใหม่ จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่สามารถทำได้ทันทีทั่วประเทศ เนื่องจากยังมีข้อจำกัดทั้งในเชิงความเป็นธรรมของผู้ใช้ไฟฟ้า กฎหมายและเทคนิค ดังนี้

1.การรับซื้อไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วย อัตราค่าไฟฟ้าที่ครัวเรือนขายออกมา (ราคาขายส่ง) จะต่ำกว่าอัตราค่าไฟฟ้าที่การไฟฟ้าจัดหาให้ครัวเรือนเสมอ (ราคาขายปลีก) ต้นทุนส่วนเพิ่มจากการรับซื้อไฟฟ้าแบบ Net Metering จะถูกกระจายลงค่าไฟในที่สุด ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้ามากจะได้เปรียบครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าน้อยเกิดความไม่เป็นธรรม

2.การผลิตไฟฟ้าไหลย้อนกลับเข้าสู่ระบบจะส่งผลกระทบให้แรงดันไฟฟ้าในระบบไม่สมดุล เนื่องจากไฟฟ้าที่ผลิตจาก Solar มีความผันผวน หากมีการติดตั้ง Solar Rooftop ปริมาณมากกับระบบจำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบเสียหาย ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ป้องกันใหม่ และเพิ่มขีดจำกัดการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายในหม้อแปลงจำหน่ายลูกเดียวกัน เพื่อรองรับไฟฟ้าที่จะไหลย้อนเข้าสู่ระบบปริมาณมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบจะถูกส่งผ่านไปยังค่าไฟ ทำให้ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้น

ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในข้อ 1.และข้อ 2.ประชาชนทุกคนจะต้องรับภาระ ไม่ว่าจะเป็นผู้ติดตั้ง Solar Rooftop หรือไม่ก็ตาม ทำให้ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 500 หน่วยต่อเดือนกว่า 22 ล้านครัวเรือน ( 90% ของผู้ใช้ไฟ) ต้องมารับภาระแทนผู้มีรายได้สูง 2 ล้านครัวเรือน( 10%) ที่ใช้ไฟฟ้าเยอะและสามารถติดตั้ง Solar Rooftop ได้

3.การซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประชาชนกับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย จะเกิดภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นทั้งฝั่งการซื้อและฝั่งการขาย ซึ่งในปัจจุบันยังใม่มีกฎหมายรองรับวิธีการคำนวณภาษีจากผลต่างของแต่ละธุรกรรมที่เกิดขึ้น

4.ผู้ผลิตไฟจาก Solar Rooftop จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็น Digital Meter ให้สามารถตรวจสอบคุณภาพไฟฟ้าและปริมาณไฟฟ้าที่ไหลย้อนกลับเข้ามาในระบบไฟฟ้าได้ เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อคุณภาพไฟฟ้า และความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประชาชนในภาพรวม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า