Skip to content
Home » “พล.อ.ประยุทธ์” พร้อม “พีระพันธุ์” นำ แกนนำพรรคขึ้นปราศรัยใหญ่ที่ ใต้สะพานพระราม 8

“พล.อ.ประยุทธ์” พร้อม “พีระพันธุ์” นำ แกนนำพรรคขึ้นปราศรัยใหญ่ที่ ใต้สะพานพระราม 8

 

“พล.อ.ประยุทธ์” พร้อม “พีระพันธุ์” นำ แกนนำพรรคขึ้นปราศรัยใหญ่ที่ ใต้สะพานพระราม 8 ยืนยันจะทำหน้าที่ทุกอย่าง ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นนักการเมืองต้องรักประชาชนต้องซื่อสัตย์ต่อประชาชน พรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นสะพานให้คนไทยก้าวข้ามเดินไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศไทยไปสู่ความเจริญ

เมื่อเวลา 16.30 น. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ใช้ชื่อว่า “รวมพล คนเบอร์ 5” ที่ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำพรรค นำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค,นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ,นายชัชวาลล์ คงอุดม รองหัวหน้าพรรค ,นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค,ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ผลัดกันขึ้นปราศรัยนำเสนอนโยบายของพรรค ช่วยหาเสียงให้กับ ผู้สมัครของพรรค 3 คน 3 เขต ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 31 นายประเวช แสวงสุข หมายเลข 5 เขตทวีวัฒนา ,เขตตลิ่งชัน (ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง), เขตเลือกตั้งที่ 32 นายอิทธิพัทธ์ เศรษฐยุกานนท์ หมายเลข 5 เขตบางกอกน้อย (เฉพาะแขวงศิริราช) ,เขตบางกอกใหญ่,เขตภาษีเจริญ (ยกเว้นแขวงบางหว้า แขวงบางด้วนและแวงคลองขวาง), เขตธนบุรี (เฉพาะแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจีและแขวงบางยี่เรือ), เขตตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงบางเชือกหนัง) และเขตเลือกตั้งที่ 33 นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี หมายเลข 5 เขตบางพลัด, เขตบางกอกน้อย (ยกเว้นแขวงศิริราช) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงค่ำ

ม.ล.ชโยทิต หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ขึ้นเวทีกล่าวถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยเศรษฐกิจฟื้นแล้ว ในพื้นฐานของความสงบ และเป็นที่ยืนยันได้จากองค์กรด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารโลก ที่รายงานว่าประเทศไทยฟื้นตัวอย่างมั่นคง แต่มักจะมีคนไปด้อยค่าประเทศไทยว่าแก้ปัญหาไม่ได้ ประเทศไทยจะมีการลงทุน แต่ละพรรคต่างๆ มีนโยบายหลักการแจก เป็นการกู้เงินมาแจกจนเป็นปัญหา กับการปล้นจากอีกกลุ่มไปให้อีกกลุ่มจนเกิดความแตกแยก บางพรรคก็จะปฏิวัติวัฒนธรรมที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก ประเทศไทยบอบช้ำมามากแล้ว ดังนั้นจึงควรจะยุติความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจจากต่างชาติเข้ามาลงทุน ถ้าอยากได้ความสงบและความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง ขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 22 และผู้สมัครของพรรคเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นผู้นำของประเทศต่อไป

นายพีระพันธุ์ ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ในชีวิตของตนมีหลายเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นเพราะถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างเช่นการที่ผู้สมัคร 3 เขต ต่างจับเบอร์ได้เบอร์ 5 เหมือนกัน ขณะที่เบอร์พรรคคือเบอร์ 22 ซึ่งตนอยากจะบอกว่าตอนนี้ทุกคนพูดเรื่องนโยบายดังนั้นไม่ต้องพูดมาก แต่ตนอยากจะบอกว่า ตั้งแต่ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติมา ถือว่าเป็นพรรคที่โตเร็วมาก และมั่นใจว่าจะเป็นพรรคหลักของการเมืองไทยเพราะพรรคอื่นๆ ตายไปหมดแล้ว วันนี้มีปัญหาบ้านเมืองหลายเรื่อง ที่คนพยายามพูดว่ามีเรื่องต่างๆ เอาเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องอื่นๆ มาพูด แต่ปัญหาจริงๆ คือความพยายามล้มชาติ ล้มแผ่นดิน ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ขอให้ทุกคนไปเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างถล่มทลายเพื่อสร้างชาติบ้านเมืองที่ดีไว้ให้กับลูกหลาน เพราะ การเมือง และประเทศไทยเป็นของทุกคนไม่ใช่วัยใดวัยหนึ่ง และต้องช่วยกัน จะทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้ ตามคำขวัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งจะเป็นคนที่จะสามารถนำพาประเทศไปข้างหน้าต่อไปได้ ดังนั้นจึงขอให้ช่วยกันเลือก ส.ส.ที่จะเข้าไปยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นนายกฯ อีกครั้ง

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ได้ขึ้นเวทีกล่าว ปราศรัยว่า วันนี้เรารวมทีมคนรักชาติและแผ่นดินมาอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนยืนยันจะทำหน้าที่ทุกอย่าง ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นนักการเมืองต้องรักประชาชนต้องซื่อสัตย์ต่อประชาชน พรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นสะพานให้คนไทยก้าวข้ามเดินไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศไทยไปสู่ความเจริญ

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีคน 77 ล้านคน ตนจะทำงานให้กับทุกคน ขอย้ำว่าคนไทยต้องรักกัน ตนพร้อมที่จะทำงานต่อ เพราะทำมาแล้วทำอยู่และทำต่อไปเพื่อคนไทยทั้งชาติ ขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 33 เขตในกรุงเทพฯ วันที่ 14 พฤษภาคม อย่านอนหลับทับสิทธิ์ ใบสีม่วงให้เลือกเบอร์ ผู้สมัครส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติในแต่ละเขต ส่วนใบสีเขียวให้เลือกเบอร์ 22 เบอร์ลุงตู่

“คนกรุงเทพอย่าทิ้งลุงตู่เบอร์ 22 ใจลุงตู่ส่งไปถึงคนกรุงเทพฯทุกเขต ในกทม.ผมทำอะไร ให้มากมาย ทั้งการท่องเที่ยว คูคลอง ตลาด ใครจะไปใครจะมา ขอให้ทำในสิ่งที่ผมได้ทำมาแล้ว อย่าทำให้เสื่อมสลาย สำหรับผมขอสัญญาว่าจะทำงานเพื่อทุกคนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่สร้างความเกลียดชังไม่สร้างความบาดหมางในสังคมไทยอีกต่อไป ความขัดแย้งมันจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว