ลูกชายนักการเมืองดังเมืองคอนประกาศปักธงพรรครวมไทยสร้างชาติเขต 1 นครศรีธรรมราช ลั่นยุค “ประยุทธ์”เป็นนายกฯปักษใต้พัฒนาไปมาก ชาวบ้านอยากได้ลุงต่อมาเป็นนายกฯอีก 2 ปี อ้อนประชาชนเลือกคนรุ่นมีความตั้งใจไม่มีประวัติด่างพร้อยเข้าไปเป็นปากเสียง
เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายพูน แก้วภราดัย ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 เบอร์ 8 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่มาตลอดพบว่า ประชาชนให้การต้อนรับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคกระแสดีขึ้นทุกวัน คนนครศรีธรรมราชอยากได้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทำให้มีกำลังใจเดินลงพื้นที่เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
นายพูน กล่าวด้วยว่า นโยบายของพรรคที่ประชาชนชื่นชมมากคือโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรลุงตู่ เขาบอกว่าที่มีกินมีใช้อยู่ได้แม้เงินจะไม่มากก็เพราะบัตรลุงตู่ กระทั่งกลายมาเป็นบัตรสวัสดิการ พลัส เดือนละ 1,000 บาท และใช้เป็นหลักประกันกู้ฉุกเฉินได้อีกด้วย นอกจากนั้นสิ่งที่ประชาชนสะท้อนมาคือ ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนดีเท่าลุงตู่ถือเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด จึงยังไว้วางใจอยากให้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี
“คนนครศรีธรรมราชเป็นคนที่ติดตามการเมือง เข้าใจปัญหาการเมือง เข้าใจสิ่งที่ลุงตู่ทำมา ว่าทำอะไรให้บ้านเมืองและจังหวัดนครศรีธรรมราชบ้าง สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่ลงมาสมัยรัฐบาลลุงตู่และชาวบ้านพอใจมาก คือ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนมีการพัฒนาใหม่เกือบทั้งภาคใต้ ก็ทำในยุคลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีจนปักษ์ใต้พัฒนาไปมาก ล่าสุด ชาวบ้าน อ.ปากพนัง และอ.เมืองถูกน้ำท่วมปี 65 แล้วตกสำรวจทั้งที่เป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเหมือนกันอำเภออื่นได้หมดแล้ว ลุงตู่ก็ได้กำชับนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สำรวจใหม่ว่า คนที่เดือดร้อนยังไม่ได้รับค่าตอบแทน มีทั้งหมดกี่ครัวเรือนกำชับสำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ชาวบ้านก็ดีใจที่รัฐบาลไม่ทอดทิ้ง” นายพูนกล่าว
นายพูน กล่าวว่า อีก 25 วันจะถึงวันเลือกตั้งยังไม่มีสิ่งที่ทำให้ท้อแท้หรือท้อถอย แม้จะลงสนามการเมืองใหญ่ครั้งแรก แต่พยายามเดินพบปะประชาชนชี้แจงนโยบายของพรรคให้เขาเข้าใจมากที่สุด แม้ตนจะอายุน้อยแต่มีความตั้งใจมากเกินร้อย เดินลงพื้นที่ทุกวัน ชูผู้นำคือลุงตู่ให้ประชาชนเห็นว่าทำอะไรมาบ้าง ตนไม่ท้อขอสู้เต็มที่แพ้ชนะเป็นเรื่องเล็ก แม้จะต้องต่อสู้กับพรรคการเมืองใหญ่พรรคเก่าแก่ และพรรคที่มีเงินมาก แต่ประชาชนคนนครศรีธรรมราชคิดได้เขามีคนอยู่ในใจแล้วว่าจะเลือกใคร
นายพูน กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นลูกของนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตส.ส.นครศรีธรรมราชที่เคยทำประโยชน์ให้กับจังหวัดมากมาย โดยเฉพาะการนำงบประมาณมาพัฒนาจังหวัดก็มีส่วนช่วยตนบ้าง แต่พ่อเป็นอดีตส.ส.ในเขตปากพนัง ตนมาลงในเขตอำเภอเมืองเป็นคนละเขตกับบ้านของพ่อ ตนเกิดที่อำเภอเมืองก็ต้องสู้ในเขตนี้ ตนไม่เคยมีปัญหาเรื่องทุจริต อดีตเคยเป็นเลขานายกเทศมนตรีได้ซึมซับการทำงานมาตลอด จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้ตนมาลงในอำเภอเมือง
“แม้ผมจะมีพ่อเป็นนักการเมืองที่คนรู้จัก แต่ผมถูกสอนมาว่าต้องซื่อสัตย์กับชาวบ้าน ผมไม่สามารถไปลงที่ปากพนังได้เพราะเป็นลูกชายนายวิทยา ผมต้องมาลงในอำเภอเมือง เพราะเกิดและโตที่นี่และคิดว่าคงต้องตายที่นี่ อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่าจะปักธงพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้กับลุงตู่ได้แน่นอนในเขตเลือกตั้งที่ 1 ขอให้ชาวบ้านให้โอกาสคนรุ่นใหม่ที่ผ่านประสบการณ์การทำงานการเมืองในท้องถิ่นมาแล้ว และไม่เคยมีประวัติเสียหาย เพื่อเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้คนนครศรีธรรมราชด้วย”นายพูนกล่าว