“ธนกร” ซัดแรง “รังสิมันต์ โรม” บิดเบือน ชี้ คดีแอมมี่-ปูนเผาพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นคดีอาญา ไม่ใช่ เห็นต่างทางการเมือง เตือน เป็นถึง สส.พูดอะไรต้องมีความรับผิดชอบ จี้ หยุดยุยงปลุกปั่นให้ท้ายทำเยาวชนหลงผิดจนเสียอนาคต ยัน จนท.ทำตามกม.ถูกต้องแล้ว
วันที่ 29 พ.ค.2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า ได้เห็นที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่าน X แล้ว มองว่าเป็นการพยายามบิดเบือน สร้างชุดข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ให้กลุ่มเยาวชนหลงผิด เรื่องการจับกุมเยาวชนที่ละเมิดสถาบันเข้าเรือนจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่า เป็นแค่การแสดงความเห็นต่าง มีการเห็นดีเห็นงามในการบังคับใช้กฎหมายมาตรานี้นั้น ตนมองว่า นายรังสิมันต์ โรม ต้องการที่จะผลักให้คดีดังกล่าวเป็นคดีที่มาจากการแสดงความเห็นทางการเมือง เพื่อหวังผลนิรโทษกรรมในอนาคตหรือไม่ ทั้งที่คดีของแอมมี่และปูน เป็นคดีอาญาแผ่นดิน ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาตรา 217 ฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (3) เมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ.2564 ที่ทั้ง 2 คน ร่วมกันจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ซึ่งประดิษฐานตั้งอยู่บริเวณ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องแล้ว เพราะไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย หากทำผิดก็ต้องยอมรับโทษ คดีแอมมี่และปูน เป็นการแสดงออกชัดเจนถึงการอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ รวมทั้งยัง ถือเป็นการทำลายทรัพย์สินของราชการด้วย
”นายโรม เป็นถึงสส. เป็นผู้ใหญ่ ต้องมีความรับผิดชอบในคำพูดและการกระทำของตัวเอง อย่าเป็นผู้ใหญ่ คอยให้ท้ายเด็กทำผิด จนติดคุกหมดอนาคต โดยเฉพาะมาตรา 112 เป็นคดีอาญา กรณีแอมมี่และปูน ไม่ใช่การแสดงความเห็นต่างทางการเมือง อย่างที่นายโรมกล่าวอ้าง ขอหยุดสร้างชุดข้อมูลบิดเบี้ยว ทำให้สังคมสับสน ผมว่าเกิดเป็นคนไทยต้องเคารพเทิดทูนและปกป้องสถาบันฯ หากไม่มีพระมหากษัตริย์คงไม่มีประเทศไทยมาถึงทุกวันนี้ได้ คนไทยทุกคนทุกคนล้วนสำนึกในเรื่องนี้มาตลอด“ นายธนกร ระบุ