Skip to content
Home » พงษ์มนู ทองหนัก ขอให้ช่วยเหลือเกษตรกรจากราคาพืชไร่ตกต่ำ

พงษ์มนู ทองหนัก ขอให้ช่วยเหลือเกษตรกรจากราคาพืชไร่ตกต่ำ

พงษ์มนู ทองหนัก สส.พิษณุโลก รวมไทยสร้างชาติ ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำ พืชไร่บางชนิดไม่ได้รับการเหลียวแล

นายพงษ์มนู ทองหนัก สส.พิษณุโลก เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงปัญหาราคาพืชผลของเกษตรกรในจังหวัดพิษณุโลกที่ตกต่ำ ว่า ในจังหวัดพิษณุโลกเกษตรกรปลูกพืชได้เกือบทุกชนิดที่ประเทศไทยมี ทั้ง ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา และปาล์ม แต่ปัญหาของพี่น้องเกษตรกรได้รับการแก้ไขสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นว่า สินค้าทางเกษตรหลายๆตัวประคองตัวอยู่ได้ในช่วงโควิดที่ โดยเพาะมันสำปะหลัง และข้าวโพดราคาพอทรงตัวอยู่ได้ แต่ราคาข้าวค่อนข้างตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง

นายพงษ์มนู กล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมาสมัยก่อนโน้น มีโครงการจำนำข้าวและประกันรายได้เกษตรกร มาถึงรัฐบาลลุงตู่มีประกันรายได้ให้กับเกษตรกรในพืชเศรษฐกิจ 5 ประเภท รวมทั้งมีค่าไถหว่าน ค่าเก็บเกี่ยว แต่พอมาถึงรัฐบาลสมัยนี้ ยังไม่เห็นมีนโยบายเหล่านี้เกิดขึ้น วันนี้แถวพิษณุโลกเริ่มทำนาปรัง เริ่มปลูกมัน เก็บมันอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นฤดูเพาะปลูก

ทั้งนี้ เกษตรกรอยากจะทราบว่า จะเพาะปลูกข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพาราและปาล์มน้ำมันที่จะลงทุนในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า เกษตรกรอยากรู้ว่า จะขายได้ราคาเท่าไหร่ เพราะในอดีตที่เรามีประกันรายได้เกษตรกรรู้แล้วว่า จะได้ส่วนต่างเท่าไหร่ ไหนจะมีค่าเก็บเกี่ยวอีกไร่ละ 1,000 บาท มีค่าไถกลบอีกไร่ละ 1,000 บาท ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่พวกเขาประเมินได้ว่ามีต้นทุนในการผลิตเท่าไหร่ มีส่วนต่างเท่าไหร่รวมกับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างน้อยยังเหลือ 20,000 บาทต่อครัวเรือน

“ผมจึงขอถามรัฐบาลว่า วันนี้รัฐบาลมีนโยบายอะไรที่ช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรทั้งประเทศไทยบ้าง เพื่อให้พวกเขามั่นใจว่า ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เมื่อเขาลงทุนปลูกพืชผลทางการเกษตรแล้ว จะไม่ขาดทุนเหมือนปีที่ผ่านมา”นายพงษ์มนู กล่าว

นายพงษ์มนู กล่าวต่อว่า จังหวัดพิษณุโลก เกษตรกรปลูกผลไม้ได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น มะม่วง มังคุด เงาะ ลองกอง ทุเรียน แต่บางปีราคาตกต่ำเกษตรกรอยู่ไม่ได้ มะม่วงสมัยก่อนกิโลกรัมละ 30-40 บาท เกษตรกรอยู่ ได้แต่ช่วงนี้เหลือกิโลละ 10 กว่าบาท มะม่วงน้ำดอกไม้ที่อำเภอนำปาง ได้ผลิตภัณฑ์จีไอจากกระทรวงพาณิชย์ เป็นสินค้ามาตรฐานจีไอเหลือกิโลกรัมละ 10 กว่าบาท ค่าถุงห่อค่ายาก็ไม่คุ้มแล้ว ราคาข้างหน้าจะตกต่ำมากกว่านี้ ดังนั้นรัฐบาลจะมีวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเมื่อมีผลไม้จากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดอีก ทำให้เกษตรกรต้องเผชิญปัญหาหลายด้าน รัฐบาลจะช่วยเหลือเกษตรกรกันอย่างไร

“เกษตรพิษณุโลก เก็บมะม่วงน้ำดอกไม้ขายได้กิโลกรัมละ 2-3 บาท ก็ต้องเก็บขายด้วยความช้ำใจ ไม่เคยได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือจากรัฐบาลเลยแต่พอลำไยผลผลิตปีหนึ่งไม่มาก แต่ลำไยราคาตกต่ำทีไรรัฐบาลเข้าไปอุ้มไปชูไปดูแลเสมอ เกษตรกรบ้านผมบอกว่า ทำไมรัฐบาลดูแลแต่ลำไย ทำไมผลไม้อื่นรัฐบาลไม่ดูแลบ้าง เกษตรกรบ้านผมฝากถาม”สส.พิษณุโลก พรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว