Skip to content
Home » สส.ชุมพร เสนอนายกฯ นำระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างมาใช้กับงบประมาณปี 67

สส.ชุมพร เสนอนายกฯ นำระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างมาใช้กับงบประมาณปี 67

สส.ชุมพร รวมไทยสร้างชาติ เสนอนายกฯและรัฐบาลนำระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างปี 2564 มาใช้กับงบประมาณปี 67 เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้งบประมาณสะดวกรวดเร็วขึ้นภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด

เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รสช.) อภิปรายระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า จากการได้ฟังนายกรัฐนตรีชี้แจงในสภาฯ ขอชื่นชมที่นายกรัฐมนตรีได้ตั้งใจจัดสรรงบประมาณให้กับทุกกระทรวง เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ภายใต้เศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ ตนเชื่อว่า งบประมาณผ่านแน่นอน แต่ปัญหาที่อยากจะเสนอแนะไปยัง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คือ การใช้จ่ายงบประมาณภายใต้ระยะเวลาอันสั้นแค่ 4 เดือน

ทั้งนี้ กว่างบประมาณจะใช้ได้ประมาณวันที่ 17-18 เมษายน ตนกลัวว่าการใช้จ่ายงบประมาณจะสะดุดในเรื่องกรอบเวลาและการทำงาน จึงขอเสนอแนะถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่า องค์กรที่จะใช้จ่ายงบประมาณได้สะดวกและถึงมือประชาชน คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งอบจ. เทศบาล และอบต. เพราะเป็นไม้เป็นมือให้พวกเราอยู่แล้ว

“ ผมเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมีความคาดหวัง อยากใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาโดยรวมที่ประชาชนประสบอยู่ พวกเราในฐานะพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติได้พูดในภาพรวมของงบประมาณแล้ว ว่า เราจะได้ใช้งบประมาณที่ขาดช่วงมาแล้ว 3-4 เดือน กว่าจะได้ใช้ก็ล่วงเข้าไป 6-7 เดือน ดังนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่ใกล้พี่น้องประชาชนมากที่สุดจะทำให้เศรษฐกิจรากหญ้าฟื้นฟูขึ้นมาได้”นายวิชัยกล่าว

สส.ชุมพร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ฝากถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ได้แก้ปัญหาในการหาผู้รับจ้าง ในการจัดซื้อจัดจ้างให้ไปที่เดิมในปี 2564 สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาที่เร็วขึ้นภายใต้กรอบการใช้จ่ายภายใน 4 เดือนที่เหลืออยู่

นายวิชัย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าวันนี้ประชาชนเดือดร้อน ผู้ใช้แรงงานไม่มีงานทำ ผู้ประกอบการก็หยุดชะงักไม่มีงบประมาณแผ่นดินลงไป มีหลายบริษัทที่ขับไล่ลูกน้องออกจากบริษัท จึงขอเรียกร้องให้ลดขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้าง วกกลับมาใช้กรอบเดิมในปี 2564 ของหนังสือวอ. 89 เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณในงบของ SME ท้องถิ่นจะได้ขับเคลื่อนเรื่องงบประมาณและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน จะปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน แล้วพวกเรามานั่งพิจารณางบประมาณกัน ทั้งที่รู้กันอยู่ว่า พวกเราเข้าใจเรื่องการใช้งบประมาณ ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนมาก หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วม ถนนขาด แก้ไขปัญหาระยะสั้นมาตลอด แต่พอถึงระยะยาวก็มาสะดุด เราตั้งใจจะใช้งบประมาณของประเทศซึ่งเป็นภาษีของพี่น้องประชาชน นำไปดูแลช่วยเหลือประชาชน

“เรามาเปลี่ยนทิศทางกันเล็กน้อย ไม่ใช่เป็นทิศทางที่ผิดกฎหมายเพราะเราเคยทำมาแล้วในปี 64 จึงขอเรียนประธานสภาฯด้วยความเคารพว่า น่าจะปฏิบัติได้ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับท้องถิ่นของพวกเรา ทุกรัฐบาลตั้งใจจะลดความเหลื่อมล้ำของสังคมจัดสรรงบประมาณสู่ท้องถิ่น แต่เราทำแล้วไม่สำเร็จสักครั้ง มาครั้งนี้ภายใต้กรอบเวลาการใช้จ่ายงบประมาณแค่ 4 เดือน ทำอย่างไรให้ประชาชนได้ใช้งบประมาณเร็วขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า ทำให้คนที่มีปูนต้องได้ขายปูน ทำให้คนที่มีหินได้ขายหิน คนมีทรายได้ขายทรายเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ให้เงินสะพัดเงินหมุนเวียนโดยการใช้จ่ายงบประมาณที่เร็วขึ้น”นายวิชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ถ้าปล่อยให้กรมบัญชีกลางทำอย่างเดียว ตนเชื่อว่าคงไม่ได้ใช้จ่ายงบประมาณ ตนในฐานะที่เป็นสส. เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นบุคคลที่ประชาชนไว้วางใจ มองว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญต้องแก้ไข ขอนำเรียนประธานสภาฯด้วยความเคารพ ฝากถึงนายกรัฐมนตรี ฝากถึงคณะรัฐมนตรี ว่า ให้ทำแบบสอบถามถามท้องถิ่นว่า เขาพอใจอยากจะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างกันเองหรือไม่ รัฐบาลนี้หาเงินได้ใช้เงินเป็นตามสโลแกนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนเชื่อว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังจะนำพาประเทศชาติไปสู่เป้าหมายในงบประมาณปี 67 อย่างแน่นอน