ประธานกมธ.อุตสาหกรรม สภาฯ เผยจีนสนใจลงทุนอุตสาหกรรมรถยนต์อีวีเพิ่มหลังนำคณะเยือนจีนชมไทยมีศักยภาพเด่นในอาเซียน พร้อมดันรัฐบาลให้ความชัดเจนเรื่องแบตเตอรี่และสถานีชาร์จ
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมาธิการฯได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ตามคำเชิญ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน ที่เมืองไท่โจว มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชาชนจีน เพื่อไปรับทราบความต้องการของนักลงทุนจีนที่จะมาขยายการลงทุนในประเทศไทย
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯได้พบกับ มิสเตอร์ไป่หลง จีเอ็มของเกรท วอลล์ มอเตอร์ รับทราบถึงความต้องการ คือ ขอให้คณะกรรมาธิการฯประสานรัฐบาลสนับสนุนการลงทุนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการลงทุนประกอบรถยนต์อีวีในอีกหลายสายการผลิต โดยเฉพาะการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อีวี และ สถานีชาร์จไฟฟ้าเพื่อรองรับรถยนต์อีวี โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ แจ้งว่า ได้ทำการศึกษาวิจัยความเหมาะสมในการลงทุนในไทยแล้วก็พบว่า ไทยเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์อีวีในอาเซียน และเห็นว่า ตลาดรถอีวีในประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ขณะเดียวกันโครงสร้างพื้นฐานของไทยยังสามารถรองรับการผลิตรถยนต์อีวีของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ได้
นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า เรื่องการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์อีวี ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความต้องการให้รัฐบาลไทยมีความชัดเจนในเรื่องการสนับสนุนการลงทุนว่า จะมีอะไรบ้าง หลังคณะกรรมาธิการฯได้รับทราบความต้องการแล้ว จะได้ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำประเด็นต่าง ๆ ที่นักลงทุนต้องการมาหารือเพื่อเป็นแนวทางในการสนับสนุนการลงทุนของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนต่างชาติที่จะมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะการลงทุนแบตเตอรี่รถยนต์อีวี ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรม
“เกรท วอลล์ มอเตอร์ ต้องการให้รัฐบาลส่งเสริม การผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อีวี , สถานีชาร์จไฟฟ้าเพื่อรองรับรถยนต์อีวี และมาตรการทางภาษี รวมถึงการทำมาตรฐานและข้อบังคับให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ผมเห็นว่า รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติม เพราะรัฐบาลประกาศสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว ถ้าเพิ่มสิ่งที่นักลงทุนต้องการเข้าไปให้เพียงพอจะเป็นผลดีต่อตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นในอนาคต ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ก็รับปากจะประสานหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องนำมาศึกษา เพื่อเสนอต่อรัฐบาลได้แก้ปัญหาให้กับนักลงทุนต่อไป” ประธานคณะกรรมาธิการฯกล่าว
สำหรับ ฐานการผลิตในอาเซียนประเทศไทยถือว่า ได้รับการยอมรับจากบริษัทผลิตรถไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน 2 บริษัท คือ GWM และ BYD หากไทยสนับสนุนให้ทั้ง 2 รายมาลงทุน เพิ่มไลน์การผลิตจะทำให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ยิ่งขึ้น เพราะขณะนี้รถบางรุ่นของ GWM ยังเป็นระบบ SKD คือ ผลิตบางส่วน แล้วนำมาประกอบบางส่วน ซึ่งในอนาคตบริษัทมองว่า จะเพิ่มไลน์การผลิต เพื่อให้สามารถประกอบรถยนต์ทั้งหมดในไทยเต็ม 100% โดยคณะกรรมาธิการฯมั่นใจว่า รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมจะดำเนินให้กับนักลงทุน เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว