Skip to content
Home » “ธนกร” มั่นใจ มาตรการแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบ

“ธนกร” มั่นใจ มาตรการแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบ

“ธนกร” มั่นใจ มาตรการแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน สร้างความเป็นธรรมทั้งเจ้าหนี้-ลูกหนี้ได้จริง พบ เปิดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบวันแรก 77 จังหวัด คนกว่า 2 หมื่นแห่แจ้งชื่อ แนะ มหาดไทย เร่งให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์ เหตุ ปชช.ไม่รู้รายละเอียด

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการแก้หนี้สินให้ประชาชนของรัฐบาล เชื่อว่า มาตราการให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐ ในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ทั้งในและนอกระบบ หากมีการลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่การไกล่เกลี่ยหนี้อย่างเป็นระบบ จะสามารถแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน โดยเฉพาะหนี้นอกระบบที่มีผลกระทบมายาวนาน ทั้งการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมถึงการข่มขู่คุกคามทวงหนี้โหดมีการทำร้ายร่างกายถึงขั้นเอสชีวิตและอื่นๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อถามว่า วันแรกของการลงทะเบียนแต่ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศยังไม่ค่อยรู้นั้น นายธนกร กล่าวว่า ตามที่มีข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการรับลงทะเบียน ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th และแบบวอล์คอินลงทะเบียน ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด  ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ รวมถึง ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง และสำนักงานเขตทุกแห่งสำหรับผู้อาศัยในกรุงเทพมหานคร พบว่าวันแรก มีการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์จำนวน 21,001 ราย วอล์คอิน 1,089 ราย จำนวนเจ้าหนี้ 11,539 ราย ยอดหนี้รวมกว่า 935.31 ล้านบาท ตนมองว่าหากมีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนมากขึ้นจะทำให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น รับทราบว่าจะต้องลงทะเบียนผ่านช่องทางใดเพื่อได้รับความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการ ของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน

“หน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นเจ้าภาพรับลงทะเบียนทั้งที่ศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานเขตและการลงทะเบียนในระบบออนไลน์ หากมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากกว่านี้ ก็จะทำให้ประชาชนตื่นตัวและรีบเข้ามาลงทะเบียนรับความช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้มากขึ้น จะเกิดการแก้ปัญหาที่ทันท่วงที เพื่อช่วยประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้ ให้นำไปสู่การไกล่เกลี่ยสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ให้ เป็นไปตามกรอบกฎหมายการกู้ยืมเงิน“ นายธนกร กล่าว