“ธนกร” ออกโรงค้านร่างพ.ร.บ.ยุบกอ.รมน.ของก้าวไกล ชี้มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ หนุน นายกฯคงหน่วยงาน แนะปรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเชิงรุกช่วยด้านเศรษฐกิจความเป็นอยู่ประชาชน พร้อมตั้งข้อสังเกต คนชงกม.นี้ หวังนิรโทษกรรมล้างคดีความ ที่ถูกกอ.รมน.ฟ้องหรือไม่
นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล เชิญชวนประชาชนแสดงความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ. ยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 หรือร่างกฎหมาย ยุบ กอ.รมน. ว่า เรื่องนี้ตนขอคัดค้าน ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก กอ.รมน. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องรักษาความมั่นคงภายในประเทศ จากภัยคุกคามต่างๆ เช่น การก่อความไม่สงบ อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นต้น หากยุบกอ.รมน. ไป อาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้
โดยการทำงานของ กอ.รมน.ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2551 ได้บูรณาการการทำงาน ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตอบสนอง นโยบายรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และแก้ปัญหาให้ประชาชนในสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ กอ.รมน.คือหน่วยงานประสานการทำงานในลักษณะองค์กรผสม 3 ฝ่าย คือ พลเรือน-ตำรวจ-ทหาร มี 6 ศูนย์ประสานการปฏิบัติ มี
- ศูนย์ 1 รับผิดชอบด้านยาเสพติด
- ศูนย์ 2 แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
- ศูนย์ 3 การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
- ศูนย์ 4 ด้านความมั่นคงพิเศษ อาทิ ชาวม้งลาว, การค้ามนุษย์, การฟอกเงิน, บุกรุกป่าไม้, ภัยพิบัติระดับชาติ ฯลฯ
- ศูนย์ 5 ด้านความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ คือจังหวัดชายแดนภาคใต้
- และศูนย์ 6 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและการส่งเสริมสถาบัน
“หากยุบกอ.รมน. ไปอาจทำให้หน่วยงานต่างๆ ทำงานแยกส่วนกัน ประสิทธิภาพการบูรณาการ การประสานงานด้านต่าง ๆ ลดลง ตนเห็นด้วยกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่ไม่มีแนวคิดจะยุบ กอ.รมน. แต่จะปรับแนวทางการทำงานให้มีประสิทธิภาพให้มีการทำงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อช่วยพี่น้องประชาชนได้มากขึ้น”
เมื่อถามว่า การล่ารายชื่อของพรรคก้าวไกลจะมีผลต่อการยื่นร่างกฏหมายนี้ต่อสภาหรือไม่ นายธนกร ระบุว่า การเสนอกฎหมายเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อยื่นวาระเข้าสภาแล้ว ก็ถือเป็นสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะพิจารณาถึงประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน ตนเชื่อว่าทุกคนจะยึดหลักประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าส่วนตน มากกว่าพวกพ้อง หรือ พรรคใดพรรคหนึ่ง
“ผู้ที่สนับสนุนให้ยุบกอ.รมน. เขาอาจมองว่า กอ.รมน. มีอำนาจมากเกินไปอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และถูกมองว่าเป็นหน่วยงานที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้น ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า การให้เหตุผลเหล่านี้ อาจมีเรื่องอื่นแฝงอยู่หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาตัวผู้ที่เสนอร่างพ.ร.บ.ยุบ กอ.รมน.เอง รวมถึงพรรคดังกล่าวนั้น ถูกกอ.รมน.แจ้งความเอาผิดในคดีความมั่นคง มาวันนี้ จึงเสนอกฎหมายเพื่อให้ยุบหน่วยงานที่เป็นคู่กรณีของตนเองหรือไม่ จึงขอฝากประชาชนติดตามข่าวสารอย่างมีข้อมูลที่รอบด้าน เพื่อจะได้ทราบถึงที่มาที่ไปและเหตุผลของการขับเคลื่อนล่ารายชื่อในการยื่นกฎหมายดังกล่าวในครั้งนี้” นายธนกร ระบุ
อย่างไรก็ตาม นายธนกร ยังย้ำว่า การตัดสินใจว่าจะยุบกอ.รมน. หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งควรพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และการทำงานเพื่อประชาชนเป็นสำคัญ