Skip to content
Home » “ศาสตรา ศรีปาน” หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญฯศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์

“ศาสตรา ศรีปาน” หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญฯศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์

“ศาสตรา ศรีปาน”สส.สงขลา รวมไทยสร้างชาติ หนุนตั้งกมธ.วิสามัญฯศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์การขนส่งของภูมิภาคสร้างงานสร้างรายได้ให้ประเทศ

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ว่า ขอสนับสนุนให้ก่อสร้างโครงการนี้ เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน เป็นการเชื่อมโยงลงมาข้างล่างผ่านจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร ออกจากอ่าวไทยไปอันดามันออกไปทางตะวันออกกลางจนถึงไปยุโรปได้ ศูนย์กลางของเซาท์อีสต์เอเชียจะไม่ใช่เวียดนามอีกต่อไป ไม่ใช่อินโดนีเซีย ไม่ใช่สิงคโปร์ แต่เป็นภาคใต้ของประเทศไทย

ทั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้น 3 อย่างโดยอัตโนมัติเมื่อมีโครงการแลนด์บริดจ์คือประเทศไทยจะกลายเป็นฮับของโลจิสติกส์ทันที เพราะการขนส่ง การคมนาคมจะมาผ่านที่ประเทศไทย จะมีเทรดมีการซื้อการขายเกิดขึ้น มีการลงทุนแบบอัตโนมัติ แล้วไทยก็จะกลายเป็นไฟแนนเชียล มีการลงทุนเหมือนที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ มีสถาบันการเงินต่างๆ มาลงทุนที่ประเทศไทย หากแลนด์บริดจ์เชื่อมกับรถไฟทางคู่ที่มาจากประเทศจีน ที่เชื่อมมาจากทางสปป.ลาวเข้าหนองคายของภาคอีสาน ในพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการพัฒนาแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงภาคกลางและไปต่อภาคใต้ เชื่อมกับอีอีซี ตอนนี้รถไฟทางคู่อยู่ระหว่างการทำอีไอเอถึงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเสร็จแล้วจะลงมาที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาออกปาดังเบซาร์ และประเทศมาเลเซีย นั่นคือการเชื่อมต่อตั้งแต่จีนไปถึงอินเดีย ประเทศไทยจะกลายเป็นความเจริญที่ไม่ได้มีแค่รูปธรรมแต่จับต้องได้เป็นรูปธรรม

นายศาสตรา กล่าวต่อว่า วันนี้ได้เปิดอ่านข้อความในโซเชียล บอกว่าการที่ตนสนับสนุนเพราะอยู่พรรคลุงตู่ทำให้เชียร์เรื่องนี้ ตนอยากจะบอกว่าอะไรที่ทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ สร้างความเจริญให้ประเทศไทยตนสนับสนุน ทุกคนล้วนทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ทั้ง ลุงตุ๋ย ลุงตู่ ลุงนิด ลุงหนู เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน คือลุงตุ๋ย เป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ วันก่อนลงไปชุมพร เพราะกลัวแลนด์บริดจ์จะไม่ได้สร้าง ไปติดตามงาน

“ลุงตู่ไม่ต้องพูดถึง รถไฟทางคู่ก็ได้สร้างระยะทางยาวที่สุดตั้งแต่มีรัฐบาลมา แลนด์บริดจ์ก็ได้เริ่มศึกษาแล้ว จากนั้นจะมีการสานต่อกันไป ส่วนลุงหนู คือนายอนุทิน ชาญมีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย สมัยพรรคภูมิใจไทยคุมกระทรวงคมนาคมได้ทำงานแล้ว เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่นิด้ารมว.คมนาคมไปพูดว่าโครงการนี้รอช้าไม่ได้ จะต้องรีบทำเพราะคุ้มค่า น่าลงทุน สุดท้าย ลุงนิด คือนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็หนุนเดินหน้าแลนด์บริดจ์ แม้ว่าจะมีคนเข้าใจผิดในตอนแรกว่าจะยกเลิก แต่คนไทยคนใต้อยากให้ทำมากเพราะรู้ถึงประโยชน์ และเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็เดินทางไปขายโครงการนี้ให้กับประเทศจีนแล้ว”นายศาสตรากล่าว

สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้ไปวาดภาพแผนที่ให้จีนดูว่า อีกไม่นานจะมีการลงทุนผ่านจังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง ผ่านช่องแคบมะละกา ลดระยะการเดินทางได้ตั้ง 4 วัน ถ้าไม่มีอีอีซีจะเอาอะไรไปขายที่จีน ถ้าไม่มีแลนด์บริดจ์จะเอาอะไรไปขายให้ซาอุฯ อีอีซีล่าสุดฉางอันโตโมบิลมาลงทุนแล้ว 9,800 ล้านเพราะเขารู้ว่ามีอีอีซี และที่แลนด์บริดจ์ มี เอสอีซี เซาท์เทิร์นอีโคโนมิคคอริดอร์ หรือระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ซาอุฯมาลงทุนโรงกลั่นน้ำมัน จะทำให้คนไทยมีโอกาสได้ใช้น้ำมันราคาถูก

นายศาสตรา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศสิงคโปร์มีท่าเรือน้ำลึกตรงช่องแคบมะละกา ทำให้เรือหลายลำแล่นผ่านก็ได้ใช้เงินเหล่านี้มาพัฒนาประเทศ วันนี้ถ้ามีแหล่งผลิตนอกจากเราจะทำงานร่วมกับประเทศสิงคโปร์ การขนส่งก็จะมาที่ประเทศไทยหมด เช่น เส้นทางแรกใช้เวลา 4 วัน ในการขนส่ง สมมุติว่าเดินทางจากกรุงเทพฯไปหาดใหญ่ใช้เวลา 4 วัน กับอีกเส้นทางหนึ่งใช้เวลา 1 วัน ถามว่าจะไปทางไหน คนก็ต้องเลือกเส้นทางที่ใช้เวลา 1 วัน ต้องมาที่ประเทศไทยฉะนั้นไทยได้เปรียบทุกอย่าง การตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาฯครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก

“ถ้ามีใครมาขวางอีกบอกได้เลยคนนั้นรับงานมา วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ เมื่อตั้งคณะกรรมาธิการฯเราก็มาถกกันในห้อง สำหรับผมคือการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยครั้งใหญ่ อยากให้คนไทยรวยไม่ต้องลุ้นวันที่ 1 กับวันที่ 16 ไม่ต้องซื้อหวยอยากรวยให้สร้างแลนด์บริดจ์ จึงอยากจะให้มีการศึกษา และรีบทำให้เร็วที่สุดเพราะในตารางที่เปิดดูข้อมูลเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วให้เร่งสร้างเลยเร็วกว่าเดิม สร้างในปี 2568 แล้วเสร็จในเดือนตุลาคม ปี 2573” นายศาสตรากล่าว