Skip to content
Home » “ธนกร วังบุญคงชนะ” หนุนเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน

“ธนกร วังบุญคงชนะ” หนุนเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน

ธนกร วังบุญคงชนะ” สส.รวมไทยสร้างชาติ หนุนเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนสานต่อโครงการดีๆ ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯได้วางรากฐานเอาไว้

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายสนับสนุนญัตติการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการแก้ไขหนี้ครัวเรือน ว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปัจจุบันมีหนี้ครัวเรือนทั้งหมด 16 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 90.7 ต่อจีดีพี ในภูมิภาคเอเชียประเทศไทยอยู่อันดับ 3 ที่หนี้ครัวเรือนสูงมาก รองจากเกาหลีใต้และเกาะฮ่องกง เมื่อไปดูในข้อเท็จจริง 58% เป็นหนี้ที่เริ่มจากทำงาน นั่นหมายความว่าจบมาก็เป็นหนี้ เช่นเดียวอย่างตนเรียนจบมาก็เป็นหนี้บัตรเครดิตเลย นอกจากนั้นมีหนี้ซื้อรถยนต์ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ปัญหานี้จำเป็นจะต้องเร่งแก้ไขโดยเร่งด่วน

สำหรับ ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นมาทุกยุคทุกสมัยในปี 2561-2562 มีตัวเลขหนี้ครัวเรือนสัดส่วนต่อจีดีพีอยู่ประมาณ 80% หลังจากนั้นในปี 2563 เกิดสถานการณ์โควิดซ้ำเติมประชาชน ร้านค้าห้างร้านต่างๆ ลำบาก ผู้คนตกงาน แม้ว่ารัฐบาลในขณะนั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาประชาชนก็ทำได้แค่ช่วงหนึ่ง หลังจากโควิดก็มาเจอกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนซ้ำเติมอีก ในปี 2565 ตนมีโอกาสเป็นรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน สิ่งที่รัฐบาลในขณะนั้นทำคือ ร่วมกับแบงก์ชาติและร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆของรัฐ และภาคเอกชนแก้ปัญหาให้กับประชาชน มีการจัดโครงการไกล่เกลี่ยต่างๆ มากมาย ได้ช่วยประชาชนในช่วงหนึ่ง มาวันนี้รัฐบาลปัจจุบันควรที่จะดำเนินการต่อในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน

ดร.ธนกร กล่าวต่อว่า ตนเชื่อในความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รัฐบาลที่แล้วมีโครงการต่างๆมากมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน จึงเชื่อว่าถ้ารัฐบาลนี้ดำเนินการต่อ จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน ที่ผ่านมารัฐบาลก่อนมีโครงการสำคัญอยู่หลายโครงการมาก จึงอยากจะฝากให้รัฐบาลนี้ได้ดำเนินการต่อ

“ผมเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ทำต่ออย่างแน่นอน โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยว ก่อนโควิดมีรายได้เข้าประเทศถึง 3 ล้านล้านบาทจากการท่องเที่ยว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด 3 ล้านล้านบาทหายไปหมด แต่ในขณะนั้นมีการทำโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สามารถเปิดประเทศได้ก่อนทั่วโลกนำมาซึ่งวันนี้ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยถึง 29.5 ล้านคนเงินเข้าประเทศมาแล้ว 1.25 ล้านล้านบาท จึงเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการสานงานต่อในเรื่องของการท่องเที่ยว มีการเปิดฟรีวีซ่า และถ้ามีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างดี จะสามารถหาเงินเข้าประเทศได้อีก โดยเฉพาะในเรื่องที่ สส.หลายท่านกล่าวถึง คือการเปิดสถานบริการตี 3 ตี 4 แบ่งเป็นโซนนิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์”ดร.ธนกรกล่าว

สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวด้วยว่า จะต้องมีการส่งเสริมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ต้องยอมรับว่าสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้ลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นถนนเป็นหมื่นกิโลเมตร รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ต่างๆเต็มรูปแบบ ในขณะนั้นธนาคารโลกได้มีดัชนีวัดประสิทธิภาพของด้านโลจิสติกส์ในปี 2566 หมวดโครงสร้างพื้นฐาน สรุปว่าไทยอยู่อันดับ 9 ของโลก วันนี้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้วรัฐบาลปัจจุบันทำต่อได้เลย

“เรื่องสุดท้ายโครงการอีอีซี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้ดำเนินโครงการอีอีซีตั้งแต่ปี 2561 – 2565 มีการลงทุนถึง 2 ล้านล้านบาท ตั้งแต่ปี 2565 – 2570 มีการวางแผนไว้แล้วว่า จะต้องมีการลงทุนถึง 2.2 ล้านล้านบาท ตนเชื่อว่าการลงทุนอีอีซีขยายไปได้อีกทั่วประเทศอย่างโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะเกิดขึ้น การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ภาคเอกชนและการให้ความรู้กับประชาชน”ดร.ธนกรกล่าว