Skip to content
Home » สัญญา นิลสุพรรณ เสนอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญแก้ปัญหาน้ำท่วม

สัญญา นิลสุพรรณ เสนอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญแก้ปัญหาน้ำท่วม

สัญญา นิลสุพรรณ สส.นครสวรรค์ รวมไทยสร้างชาติ เสนอญัตติให้สภาฯตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหาวิธีแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.จ.นครสวรรค์ เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายเสนอญัตติด่วน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สภาฯพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ที่ จ.สุโขทัย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว และอีกไม่นานจะลงมาที่ จ.พิษณุโลก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร และสุดท้ายจะมาถึงที่ จ.นครสวรรค์ ผ่านมาทางแม่น้ำทั้ง 4 สายคือ ปิง วัง ยม น่าน โดยในพื้นที่ที่รับผิดชอบของตนคือ อ.บรรพตพิสัย อ.เก้าเลี้ยว และ อ.ชุมแสง สุดท้ายน้ำทั้งหมดจะไหลมาพักที่ อ.ชุมแสง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยเฉพาะบริเวณรอบบึงบอระเพ็ด ซึ่งทราบกันดีว่าบึงบอระเพ็ดเป็นจุดที่เก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่ในปัจจุบันบึงบอระเพ็ดใช้งานไม่เต็มศักยภาพ เพราะตื้นเขิน หากขุดลอกก็จะสามารถเก็บน้ำได้เต็มศักยภาพ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา จ.นครสวรรค์ ได้พิจารณาจัดทำโครงการสี่แควโมเดล เพื่อจัดทำพื้นที่รับน้ำหลากน้ำท่วมโดยตรงในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ในหลายตำบล โดยเฉพาะที่ อ.ชุมแสง เกือบครึ่งหนึ่งสามารถทำการเกษตรได้เพียงหนึ่งครั้งโดยอาศัยน้ำฝน ที่ผ่านมาหลายตำบล เช่น ต.หนองกระเจา ต.ไผ่สิงห์ ก็ยังไม่ได้ทำการเกษตร แต่พอเริ่มต้นที่จะได้ผลิตผล ก็มีข่าวร้ายว่าน้ำเหนือลงมาแล้ว ต้องนับถอยหลังว่า น้ำจะมาถึงพื้นที่เมื่อไหร่ ตอนนี้เกษตรกรต้องอยู่อย่างหวาดกลัวว่าน้ำจะมาทำลายพืชผลการเกษตรของพวกเขา ในปี 2564-65 ก็ถูกน้ำท่วมตลอด ดังนั้นจึงอยากจะให้พิจารณาโครงการที่ได้เสนอไปแล้ว

สส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวด้วยว่า ใน อ.ชุมแสง อ.เก้าเลี้ยวบางส่วน เช่น ต.หนองเต่า จะยอมเป็นพื้นที่รับน้ำที่ไหลลงมา ถ้าน้ำไม่มากักเก็บในบริเวณนี้จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ภาคกลางอย่างแน่นอน เพราะบริเวณเขื่อนเจ้าพระยาไม่สามารถรับน้ำได้ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลได้พิจารณาโครงการนี้ เพราะพื้นที่ที่จะทำโครงการนี้ ประชาชนในพื้นที่พร้อมที่จะรับภาระ แต่ขอให้มีมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา

นายสัญญา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันระดับน้ำจะเริ่มเข้าพื้นที่ อ.ชุมแสงน้ำจากภาคเหนือผ่านมาทาง จ.พิจิตร ตนได้รับการประสานจากในพื้นที่ให้นำปัญหามาพูดในสภาฯ ว่า พวกเขาต้องประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี ต้องพึ่งพาหน่วยงานทางราชการ รับถุงยังชีพ หรือเรือใช้สัญจรในช่วงเวลาที่น้ำท่วม จึงอยากฝากปัญหานี้ส่งไปถึงรัฐบาล ครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่สภาฯ ได้นำปัญหานี้มาเป็นญัตติด่วน ก่อนที่ปัญหาน้ำจะมาถึง เพราะทุกปีที่ผ่านมาน้ำท่วมจนเกือบถึงหลังคาแล้วจึงจะมีการหามาตรการ

“ผมขอขอบคุณหน่วยงาน ปภ. หน่วยงานต่างๆ ของจังหวัด,หน่วยงานการบริหารส่วนจังหวัด และการปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบต. เทศบาล ที่มีรับมือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะงบประมาณต่างๆ ไม่เพียงพอที่จะนำไปเยียวยาประชาชน ในการซื้อถุงยังชีพ หรือใช้ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากน้ำท่วม เพราะ จ.นครสวรรค์ น้ำไม่ได้ท่วมแค่เดือนเดียว แต่ภาระรับน้ำยาวนาน 2-3 เดือน กลายเป็นภาระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ก็ต้องขอขอบคุณที่ยังมีหน่วยงานภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยส่งถุงยังชีพไปช่วยประชาชน” นายสัญญากล่าว

สำหรับ ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำท่วมตนคิดว่าเป็นข้อมูลที่เกือบจะไม่แตกต่างกันทุกปี โดยจะเป็นพื้นที่เดิมๆ ที่เคยถูกน้ำท่วม ดังนั้นหากหน่วยงานท้องถิ่นนำเสนอให้กับรัฐบาลเพื่อเตรียมการจะทำให้มีความพร้อมและมีความเข้าใจได้มากขึ้น ตนคิดว่าหากทุกหน่วยงานทำการบ้านดีๆ ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบน้อยลง ที่ผ่านมาตนเคยพูดในสภาฯ หลายครั้ง ส่วนใหญ่จะพูดเรื่องภัยแล้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปฤดูแล้งกลับไม่เหลือน้ำเลย น้ำหายไปหมดแบบอัตโนมัติ ไม่สามารถเก็บน้ำไว้ได้ ใน อ.บรรพตพิสัย หลายตำบลที่อยู่ริมแม่น้ำปิง จะถูกน้ำท่วมแน่นอน แต่สิ่งที่ประชาชนต้องรับภาระหลังน้ำลดก็คือตลิ่งจะทรุดในหลายพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีว่าจะมีวิธีใดเข้าไปซ่อมแซมตลิ่ง

นายสัญญา กล่าวว่า ตนอยากฝากให้หน่วยงานที่ดูแลเรื่องตลิ่ง ไม่ว่าจะเป็น กรมโยธาธิการและผังเมือง ,กรมเจ้าท่า ได้พิจารณา กรมโยธาธิการฯอาจจะใช้งบประมาณสูงในการสร้างตลิ่ง แต่กรมเจ้าท่ามีวิธีเปลี่ยนเส้นทางน้ำ หรือนำทรายไปโปะริมตลิ่ง ที่ผ่านมากรมเจ้าท่าดำเนินการให้ในหลายพื้นที่ ก็ต้องขอบคุณอธิบดีกรมเจ้าท่า และรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมที่เล็งเห็นความสำคัญ ขณะนี้กำลังทำอยู่ในพื้นที่ชุมแสง แต่น้ำก็ท่วมอีกแล้ว หากจะกรุณาจัดสรรงบประมาณเพื่อซื้อเรือดูดทรายเพิ่มเติมก็จะดี เพราะก่อนหน้านี้กว่าจะประสานงานได้ต้องใช้เวลานาน ในฤดูแล้งสามารถนำไปดูดทรายเพื่อให้เกิดร่องน้ำนำน้ำเข้าไปในพื้นที่การเกษตร หรือช่วงน้ำท่วมถ้ามีตลิ่งไว้ก็สามารถใช้ได้ จึงอยากให้กรมเจ้าท่าสนับสนุนโครงการนี้เพราะเชื่อว่าหลังน้ำท่วมจะได้รับเรื่องร้องเรียนตมากมาย

“หวังว่าในข้อคิดเห็นต่างๆของเพื่อนสมาชิกในวันนี้ โดยเฉพาะผมในฐานะเป็นผู้เสนอญัตติ และเป็นสมาชิกที่จะร่วมอภิปราย ได้นำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปยังรัฐบาลจะทำให้มาตรการรับมือภัยน้ำท่วมในปีนี้จะทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และขอให้กำลังใจประชาชนที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ ในนามของสส.จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือพี่ประชาชน ในของนามพรรครวมไทยสร้างชาติมีความเป็นห่วงประชาชนทุกคนเป็นอย่างยิ่ง” สส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว