Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the happy-elementor-addons domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/unitedthaination.or.th/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the neve domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /var/www/vhosts/unitedthaination.or.th/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114
“จุติ ไกรฤกษ์” หนุนรัฐบาลเดินหน้าทำงานตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา - พรรครวมไทยสร้างชาติ
Skip to content
Home » “จุติ ไกรฤกษ์” หนุนรัฐบาลเดินหน้าทำงานตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา

“จุติ ไกรฤกษ์” หนุนรัฐบาลเดินหน้าทำงานตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา

จุติ ไกรฤกษ์”หนุนรัฐบาลเดินหน้าทำงานตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา เชียร์ให้อยู่ทำงานครบ 4 ปีเพื่อการแก้ไขปัญหาจะได้มีความต่อเนื่องจากรัฐบาล “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”วางรากฐานไว้ให้แล้ว

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่รัฐสภา นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้อภิปรายในการประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า ตนในฐานะตัวแทนของ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติทั้งหมดเห็นชอบในนโยบายของรัฐบาลและอยากสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ให้ได้ทำงานได้ครบเทอม 4 ปี เนื่องจากเห็นว่า ปัญหาของประเทศต้องการการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้วางรากฐานไว้แล้ว เพื่อแก้ปัญหาแบบถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้นไป โดยนโยบายที่ถูกใจคือ การลดค่าครองชีพ ลดราคาพลังงาน ที่ประชาชนทั่วประเทศไม่ว่าเด็กผู้ใหญ่จะได้ประโยชน์ จากการลดราคาน้ำมัน ลดราคาไฟฟ้า ลดราคาก๊าซหุงต้ม
ทั้งนี้ หลายคนคงไม่ทราบว่า 15 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้รัฐอุ้มราคาดีเซลถูกว่าต้นทุนลิตรละ 6 บาท ขณะที่ราคาไฟฟ้า และ ก๊าซหุงต้ม ประชาชนก็จ่ายต่ำกว่าต้นทุนจริง โดยรัฐบาลได้แบกภาระไว้ทั้งหมด และใช้การบริหารเงินจำนวนกว่า 1 แสนล้านบาทเพื่อดูแลให้ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ การที่หลายคนบ่นว่าน้ำมันของประเทศไทยแพง ดีเซลราคา 30 บาท เบนซิน 37 บาทต่อลิตร ในขณะที่ราคาน้ำมันในสิงคโปร์ดีเซลอยู่ที่ราคา 64 บาท และเบนซิน 67 บาทต่อลิตร และในยุโรป อียู ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 51 บาท เบนซินอยู่ที่ 54 บาทต่อลิตร ดังนั้นจึงต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สร้างความสุขให้คนไทยไม่ต้องแบกภาระราคาน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตามตามที่รัฐบาลจะมีการประชุมลดราคาค่าไฟเพิ่มเติม เชื่อว่ายังจะต้องใช้เวลาแก้ปัญหาค่าครองชีพ เพราะต้องไปรื้อโครงสร้างดูสัญญาว่าจะทำให้การลดราคาพลังงานทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม จะสามารถทำได้มากกว่าที่ทำอยู่หรือไม่
นายจุติ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนประชาชนก็ถูกใจ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ มีผลสำรวจพบว่าคนไทยมีหนี้สินครัวเรือนเฉลี่ยครัวเรือนละ 500,000 บาท หนี้สินครัวเรือนทั้งหมดรวม 15 ล้านล้านบาท 16% ของยอดนี้เป็นหนี้นอกระบบ 2 ล้านล้านบาท ที่ผ่านมาได้ใช้ธนาคารของรัฐ ทั้งธนาคารออมสิน ธกส. ธนาคารอิสลาม ธนาคารกรุงไทย และหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สามารถเจรจาหนี้ได้ประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมี พ.ร.บ.ทวงหนี้ ที่เกิดจากผลกระทบโควิด เพื่อไม่ยึดบ้าน ไม่ยึดเครื่องมือทำมาหากิน โดยต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เข้ามาดูแลเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคือ คนจน 14 ล้านคนนั้นได้รับการดูแลไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนั้น ถ้าจะดียิ่งขึ้นขอให้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง พิจารณาว่าในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะสามารถนำไปสู่การกู้เงินฉุกเฉินเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 บาทได้หรือไม่ จึงขอฝากนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย
สำหรับ สิ่งที่เป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือน หรือ หนี้นอกระบบ ที่ผ่านมาตนได้เห็นชีวิตคนดีๆ ข้าราชการ สองสามีภรรยาไปค้ำประกันเงินกู้ พวกหมวกกันน๊อค บอกว่าดอกไม่แพงร้อยละ 20 ต่อเดือน แต่จริงๆ แล้วคือร้อยละ 220 ต่อปี ดังนั้นคนที่เป็นหนี้อยู่ก็จะประสบปัญหาเรื่องทวงหนี้โหด ดังนั้นหากรัฐบาลบอกว่าจะแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ก็ขอให้ได้ธนาคารของรัฐ ที่เคยช่วยอยู่แล้ว มีข้อมูลอยู่แล้ว หลายแสนครัวเรือนได้ทำต่อแล้วก็ดำเนินการต่อโดยให้ดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่โหดเหมือนกับพวกทวงหนี้
นายจุติ อภิปรายว่า นอกจากนี้แล้วจะเห็นว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม พบว่ามือปืนที่ถูกตำรวจวิสามัญนั้นมีอาชีพทวงหนี้ และปล่อยเงินกู้นอกระบบ นี่คือความทุกข์ของประชาชนทั้งประเทศว่า ทำอย่างไรพวกเขาจะสามารถเข้าสู่การกู้เงินในระบบได้ ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลังกล่าวมาว่า รัฐบาลมี จึงอยากจะติดตามว่าภายใน 6-12 เดือน หนี้นอกระบบได้ถูกจัดการออกไป ไม่มีส่วย และตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศว่าจะไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ไม่มีส่วยจะได้ช่วยไปดูว่า ทุกหัวระแหง ทุกอำเภอ อย่าให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานแฝงไปเก็บค่าต๋ง ตนก็ได้รับแจ้งว่าแม้กระทั่งที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ประชาชน มีภาระหนักที่จะต้องจ่ายนอกระบบ ซึ่งไม่จำเป็น ซึ่งของพรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายที่จะแก้ไขกฎ แก้ระเบียบ พฤติกรรมที่รังแกประชาชน วันนี้หนี้ครัวเรือนไทยที่มีอยู่ จะสามารถทำอย่างไรที่จะช่วยประชาชนลดภาระในการจ่ายดอกเบี้ยนอกระบบให้ได้มากที่สุด
“ผมรู้สึกถูกใจมากเมื่อนายกรัฐมนตรีได้ประกาศ ว่า รัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ เพราะการมีหลักนิติธรรมที่น่าเชื่อถือเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทาง ความคิด และ สังคม ที่สำคัญ ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดในการเดินหน้าประเทศ” นายจุติกล่าว
นายจุติ กล่าวด้วยว่า วันนี้ดีใจว่านายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะผ่าตัดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยากขอให้ทำจริงจังเพราะว่าวันนี้มี 5 บริษัทที่มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนและนักลงทุนอย่างน้อย 48,000 รายที่สูญเสียเงินลงทุน เงินออมของชีวิต กับพฤติกรรมที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน และวันนี้ก็ยังไม่มีใครได้รับโทษ จึงอยากให้รัฐบาลได้ไปดูว่าหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นเงินออมของคนระดับกลางนั้น ระหว่างระบอบประชาธิปไตย กับ โจราธิปไตย ใครจะชนะ
สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร่างชาติ อภิปรายต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม ทำให้เห็นว่าตำรวจดีแพ้ตำรวจไม่ดี ควรจะแก้ไขให้ตำรวจดีชนะตำรวจไม่ดี เรื่องที่รังแกประชาชนคือเรื่อง รถบรรทุกน้ำหนักเกินกฎหมาย งบประมาณที่ใช้ในแต่ละปีในการสอบสวนหลายหมื่นล้านบาท สู้เอาเงินต่างๆ เหล่านี้ไปช่วย เงินกองทุนความเสมอภาคทางการศึกษาของรัฐบาลซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปช่วยเด็กๆ ให้เรียนหนังสือได้ถึง 3 ล้านคน ถ้ารัฐบาลเอาเงินไปช่วยกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาสักหมี่นล้านจะทำให้เด็กไทยอีกหลายคนได้พ้นจากความยากจนข้ามรุ่น สามารถเรียนจบมีการศึกษามีคุณภาพที่ดี
“ตอนนี้เราเห็นความท้าทาย ว่า ครอบครัวยากจนหลายมิติ รวมทั้งนักเรียนยากจนที่ยังยังขาดเงินทุน รวมถึงผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน หรือมีเด็ก ที่ต้องอยู่กับ ปู่ย่าตายายไม่ได้อยู่กับพ่อแม่อีกมากมาย เป็นสิ่งท้าทายที่รัฐบาลจะทำสิ่งดีๆ ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้ทำไว้ให้ นอกจากนี้ยังขอฝากถึงรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วยว่าขอให้ใช้ความสามารถที่มีอยู่ทางกฎหมาย ความสุจริต แก้ปัญหาทะลุปล้องให้ได้ ให้ประชาชนมีความสุขจากนโยบายของรัฐบาล มีความสุขจากการแก้ไขปัญหาที่จริงจัง และสามารถตอบโจทย์กับประชาชนได้ ” นายจุติ กล่าว

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า