Skip to content
Home » เลขาธิการพรรคขอบคุณ “พล.อ.ประยุทธ์” ร่วมวางรากฐานให้ รทสช.

เลขาธิการพรรคขอบคุณ “พล.อ.ประยุทธ์” ร่วมวางรากฐานให้ รทสช.

เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติขอบคุณ “พล.อ.ประยุทธ์”ร่วมวางรากฐานสร้างความเป็นปึกแผ่นให้รทสช. ลั่นขอสานต่ออุดมการณ์ทางการเมืองตามเจตนารมณ์ต่อไป พร้อมยึดแบบอย่างการทำงานที่ดีในฐานะนักการเมืองเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 36 ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติได้แสดงจุดยืนต่อสาธารณะตลอดมาว่า จะไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมือง หรือ รัฐบาลที่มีวาระผลักดันแก้ไขมาตรา 112 เพราะเป็นการทำลายสถาบันสำคัญของชาติ ทั้งยังสร้างความแตกแยกในสังคมและประเทศชาติที่กำลังต้องการความสงบในขณะนี้

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็ยืนยันชัดเจนว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะเราไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถึงแม้ว่าพรรคจะต่อสู้แต่ก็จะไม่สู้จนกระทั่งทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย เป็นจุดยืนที่สำคัญที่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนมาตลอด ซึ่งกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ทุกคน ได้ประชุมและมีมติเห็นชอบถึงจุดยืนดังกล่าว

เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ประกาศวางมือทางการเมืองว่า ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุยกับ พลเอกประยุทธ์ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค พร้อมผู้บริหารบางส่วนมาแล้ว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็ได้แสดงความจำนงค์ว่า ต้องการวางมือทางการเมือง ตามที่ได้มีการประกาศต่อสังคมไปแล้ว

ทั้งนี้ ตนในฐานะตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติก็ต้องขอขอบคุณ พลเอกประยุทธ์ ถือว่าท่านเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนพรรค ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง และได้วางรากฐานมั่นคงให้กับพรรคตลอดมา ซึ่งจะเป็นต้นทุนสำคัญในการขับเคลื่อนงานการเมืองต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ทั้ง 36 ที่นั่ง และคะแนนที่พี่น้องประชาชนมอบให้พรรคกว่า 4.7 ล้านคะแนนทั่วประเทศ เป็นต้นทุนที่ พลเอกประยุทธ์ให้ไว้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้สานต่อภารกิจทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ของประเทศชาติ ตามเจตนารมณ์ของ พลเอกประยุทธ์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พลเอกประยุทธ์ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่สุดกำลังจนถึงวินาทีสุดท้าย จนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาปฏิญาณตน แม้ว่ากว่าจะถึงวันนั้นยังไม่แน่ใจว่า จะใช้เวลานานเท่าไหร่แต่คิดว่าท่านจะทำหน้าที่ของท่านอย่างดีที่สุด

“สำหรับสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคน ทั้งส.สและผู้ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. รวมถึงสมาชิกทุกคน คิดเสมอว่า ไม่ว่า พลเอกประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่ง หรืออยู่ในสถานะใด ก็จะยังคงเป็นบุคคลสำคัญของพรรค ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ ก็ปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสมาชิกรวมไทยสร้างชาติตลอดมา ทุกคนจะนำการทำหน้าที่ของท่านเป็นแบบอย่างทำงานในฐานะนักการเมือง เพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป และเชื่อว่าที่ผ่านมาทุกคนได้รับคำแนะนำดี ๆจากท่าน เป็นความประทับใจที่อยู่ในใจของทุกคน และจะจารึกอยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดไป” นายเอกนัฏกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเดินหน้าของพรรครวมไทยสร้างชาติหลังจากนี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองต้องมีการพัฒนาตัวเองให้เจริญเติบโตต่อไปในอนาคต ตนได้คุยกับ พลเอกประยุทธ์ ท่านก็มีดำริว่า แม้ท่านจะวางมือทางการเมือง แต่พรรคก็จะทำหน้าที่ตามที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน ตนเชื่อว่ากว่า 4.7 ล้านเสียงจะเป็นต้นทุนสำคัญ ซึ่งต้องยอมรับว่า ได้มาจากพลเอกประยุทธ์เป็นสำคัญ

นายเอกนัฏ เชื่อว่า เสียงทั้งหมดจะยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป พรรคเองก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และพัฒนาต่อไปไม่หยุดอยู่กับที่ แม้การเลือกตั้งจบแต่ภารกิจของพรรคยังไม่จบทั้งการทำหน้าที่ในสภาฯ และงานนอกสภาฯ ซึ่งได้มีการเรียกระดมพลนักการเมืองรุ่นใหม่ รุ่นใหญ่ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจทางการเมืองนอกสภาด้วย โดยจะทำงานตามอุดมการณ์ทั้งหมดที่เคยประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน