Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the neve domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /var/www/vhosts/unitedthaination.or.th/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114
ผู้นำเข้า-ส่งออก ร้อง “พีระพันธุ์” ช่วยแก้ปัญหากรมปศุสัตว์แก้ข้อกำหนด - พรรครวมไทยสร้างชาติ
Skip to content
Home » ผู้นำเข้า-ส่งออก ร้อง “พีระพันธุ์” ช่วยแก้ปัญหากรมปศุสัตว์แก้ข้อกำหนด

ผู้นำเข้า-ส่งออก ร้อง “พีระพันธุ์” ช่วยแก้ปัญหากรมปศุสัตว์แก้ข้อกำหนด

 

ผู้นำเข้า-ส่งออก ร้อง “พีระพันธุ์” ช่วยแก้ปัญหา กรมปศุสัตว์แก้ข้อกำหนดคำนิยามในกฏหมายใหม่ ส่งผลต่อการนำเข้า-ส่งออก “ไข่ไก่” และ “อาหารสัตว์ในกิจการประมง” ได้รับความเดือดร้อนหนัก

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับ นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้นำเข้าและผู้ส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอและสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย พร้อมคณะ ณ ห้องประชุม 2503 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือกรณีผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนจากการที่กรมปศุสัตว์แจ้งการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558 ล่าช้า ทำให้ผู้กอบการไม่ทราบข้อมูลเพื่อดำเนินการขอใบอนุญาตได้ตามกฎหมาย จนทำให้ถูกกรมศุลกากรบังคับใช้กฎหมายจนทำให้เกิดเป็นความเสียหายย้อนหลัง

นายพรศิลป์ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องจากที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้มีการปรับจาก พ.ร.บ.ซากสัตว์ 2499 เป็น พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558 โดยมีการปรับคำนิยามคำว่า “ซากสัตว์” และระบุว่า “ไข่ไก่” อยู่ในคำนิยาม คำว่า “ซากสัตว์” ดังนั้นผู้ที่จะส่งออกจะต้องขอใบอนุญาตส่งออก ตามประกาศกรมปศุสัตว์ 2558 แต่ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ไม่เคยแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบ ทำให้ไม่มีผู้ประกอบการรายใดไปขอใบอนุญาตดังกล่าว จึงทำให้ไม่สามารถส่งออกไข่ไก่ได้ เนื่องจากติดปัญหากับกรมศุลกากรที่ได้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จนทำให้เกิดมูลค่าความเสียหายย้อนหลังกว่า 1,343 ล้านบาท

นอกจากนี้ปัญหาดังกล่าวยังรวมถึงส่วนของการนำเข้า และส่งออก ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และการประมงด้วย เนื่องจากได้มีการตีความนิยามของคำว่า “อุปโภค” ตามพ.ร.ก. ประมง 2558 ให้รวมถึงการทำอาหารสัตว์ด้วย ทำให้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ได้รับผลกระทบ ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับความหมายของคำว่า”อุปโภค” ซึ่งต้องมีใบอนุญาตจากกรมประมงในการนำเข้าและการส่งออกเช่นกัน ซึ่งส่งผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น นม อาหารเสริม (ที่มีส่วนผสมของสัตว์น้ำ) มูลค่าความเสียหายกว่า 50,000 ล้านบาทด้วยเช่นกัน

ด้าน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้รับทราบถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการตามที่ร้องเรียนมาแล้ว แต่เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไข จึงขอให้กลุ่มผู้ร้องเรียนนำส่งข้อมูลเอกสารเพิ่มเติม เพื่อการพิจารณาหาแนวทางให้ความช่วยเหลือ และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการโดยเร็วต่อไป

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า