Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the happy-elementor-addons domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/unitedthaination.or.th/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the neve domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /var/www/vhosts/unitedthaination.or.th/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114
พรรครวมไทยสร้างชาติจัดเวทีปราศรัยใหญ่กลางกรุงครั้งแรก - พรรครวมไทยสร้างชาติ
Skip to content
Home » พรรครวมไทยสร้างชาติจัดเวทีปราศรัยใหญ่กลางกรุงครั้งแรก

พรรครวมไทยสร้างชาติจัดเวทีปราศรัยใหญ่กลางกรุงครั้งแรก

พรรครวมไทยสร้างชาติจัดเวทีปราศรัยใหญ่กลางกรุงครั้งแรก เปิดตัวผู้สมัครส.ส.กทม.33 เขตพร้อมชี้แจงนโยบายอย่างเป็นทางการทั้งด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ “ม.ล.ชโยทิต” ชี้บางพรรคแจกแต่เงินไม่ใช่แก้ปัญหาแต่เพิ่มยาพิษเพิ่มหนี้สินให้ประชาชน จะทำให้ประเทศชาติล่มจม

เมื่อเวลา 17.00 น.ที่บริเวณลานอัฒจันทร์กลางแจ้ง สวนเบญจกิติ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)จัดงานใหญ่เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขตเลือกตั้งครั้งแรก หลังจากได้เบอร์ผู้สมัครอย่างเป็นทางการ เพื่อแนะนำผู้สมัครในกทม.พร้อมชี้แจงนโยบายในด้านต่าง ๆ ของพรรค โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรค นำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยอย่างพร้อมเพียง ท่ามกลางความสนใจของคนกทม.มาร่วมฟังหลายพันคน ทั้งนี้ มีการยิงคิวอาร์โค้ดถ่ายทอดสดขึ้นบนจอบนเวทีใหญ่เพื่อให้คนที่มาฟังได้ใช้มือถือสแกนเพื่อส่งต่อลิงก์ถ่ายทอดสดไปยังคนที่รู้จักได้อีกด้วย

นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต พรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยเป็นคนแรกว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ทองหล่อ เกิดคลัสเตอร์การระบาดของโควิด วันนั้นโรงพยาบาลในกทม.เตียงผู้ป่วยล้น ระบบสาธารณสุขแทบล่มสลาย แต่ที่เราผ่านสถานการณ์นั้นมาได้ ตนเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาดำเนินการ คนที่อยู่เบื้องหลังตนคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ถูกคนปรามาสว่า ไม่ทำอะไรเลย แต่อยู่เบื้องหลังตน สนับสนุนทุกอย่างเพื่อต้องการรักษาชีวิตของคนติดโควิด พลเอกประยุทธ์กำชับว่าทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ประชาชนรอด เมื่อวันนี้ พลเอกประยุทธ์มาเป็นแคนดิเดตอันดับ 1 นายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่เลือกได้อย่างไร

นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายจะทำให้เกิดโคงการ “1 เขต 1 โรงพยาบาลวิสาหกิจเพื่อสังคม 1 ศูนย์ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ป่วยโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย” บางคนบอกว่าเพ้อเจ้อเพราะต้องใช้งบประมาณมหาศาล นโยบายนี้ของพรรคคือ ทำให้สังคมเข้มแข็งประชาชนมีส่วนร่วมภาครัฐให้การสนับสนุน ขณะนี้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนปี 62 พลเอกประยุทธ์เป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะส่งเสริมให้ภาคเอกชน เข้ามาแก้ปัญหาสังคม วันนี้เรามีโรงพยาบาลเอกชนเต็มไปหมด แต่ค่ารักษาพยาบาลแพง เราจะแก้อย่างไรให้ค่ารักษาถูก จึงต้องมีโรงพยาบาลเอกชนที่ทำเพื่อสังคม คือโรงพยาบาลวิสาหกิจเพื่อสังคม

อย่างไรก็ตาม ตนได้หารือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ว่ายังไม่มีกฎหมายลูกมารองรับเรื่องนี้ ที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ภาคเอกชนและประชาชนที่รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน จึงต้องมีกฎหมายมารองรับ เพื่อให้โรงพยาบาลประจำเขต 50 เขตในกทม.เป็นโรงพยาบาลวิสาหกิจ ชุมชนที่รองรับผู้ป่วยบัตรทอง ผู้ป่วยประกันสังคม ผู้ป่วยบัตรราชการ สามารถเข้าโรงพยาบาลเอกชนเหล่านี้ได้

นพ.เหรียญทอง กล่าวด้วยว่า ถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นรัฐบาล ตนจะทำให้ดูพูดแล้วถ้าทำไม่ได้ไม่ใช่หมอเหรียญทอง เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนเพราะกทม.มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน สิทธิบัตรทอง 4 ล้านกว่าสิทธิ ประกันสังคม ข้าราชการและครอบครัวอีก วันนี้การรักษาในกทม.ขาดการเข้าถึง นโยบายเร่งด่วน คือการแก้ไขการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนในกทม.เข้าถึงการรักษาถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาลจะทำให้ดู

จากนั้นเวลา 17.25 น. ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกในการจัดเวทีของพรรคว่า รัฐบาลนี้ได้ลงทุน 3 ล้านล้านในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อคนไทยทุกคน ตรงนี้ทำให้การติดต่อสื่อสาร การขนส่งสินค้าถูกลงลดต้นทุนของธุรกิจและคนตัวเล็ก โครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นถนน รางรถไฟ สนามบิน หรือท่าเรือ เราพร้อมเรามีมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า

ทั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพื่อให้ดูว่า จะทำอย่างไรประเทศไทยถึงจะแข่งขันกับประเทศต่างๆได้ วันนี้ยอดลงทุนในอิเล็กทรอนิกส์สูงเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นเกือบ 40% จนตอนนี้อยู่ที่ 6 แสนกว่าล้าน ดังนั้นการที่เราจะหารายได้ 4 ล้านล้านไม่ใช่ความฝัน ความฝันที่เป็นจริงได้เกิดจากการกระทำไม่ใช่การแจกหรือการพูด ในเรื่องเศรษฐกิจของประเทศทางพรรคเตรียมทำธุรกรรมกับหอการค้า และสภาอุตสาหกรรม ในธุรกิจเรื่องของพลังงานหมุนเวียน และการอยู่อย่างยั่งยืนจะเพิ่มรายได้ให้พี่น้องไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้าน ดังนั้นเศรษฐกิจไทยที่บอกว่าสู้เขาไม่ได้ไม่จริง สิ่งที่เราสู้เขาได้และไกลกว่าเขามากคือพลเอกประยุทธ์ เห็นแต้มต่อไปปักธงในต่างประเทศว่าไทยเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่จะเป็นประเทศที่ไม่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใน 2 ปีไม่มีประเทศไหนทำไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ เราจะเป็นฐานผลิตที่ไร้ คาร์บอนไดออกไซด์ ในขณะที่เพื่อนบ้านเราใช้ถ่านหิน ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าเรา 5-6 เท่า เราจึงต้องเร่งทำนโยบายพลังงานสะอาด

“บางพรรคแจกแต่เงินการแจกเงินไม่ใช่แก้ปัญหาแต่เป็นการเพิ่มยาพิษเพิ่มหนี้สินให้ประชาชน จะทำให้ประเทศชาติล่มจมเราต้องโตอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ทุกพรรคแจกอย่างเดียวแจกอย่างไม่มีวินัยแจกแหลกแจกแบบไม่ตรงเป้า เปรียบเสมือนพลุงานวัดแหกตาคนดู จุดเสร็จกลับบ้านก็เหมือนเดิม แต่เงินประเทศไทยหาย พรรคหนึ่งบอกว่ามีนายกฯคนใหม่ฉลองนายกฯคนใหม่ด้วยเสียเงิน 500,000 ล้านบาท อีกพรรคหนึ่งบอกว่าจะเอาเงิน 6-7 แสนล้านมาแจกจ่ายประชาชนเก็บภาษีจากคนมีฐานะ ซึ่งไม่ผิด ถ้านึกกลับกันคนที่เขามีฐานะไม่ยินยอมแล้วขนเงินออกจากประเทศไทยไปจะทำอย่างไร จะเหมือนประเทศอินโดนีเซียที่ขนเงินไปประเทศ ดังนั้นเราต้องโตอย่างมีคุณภาพถึงจะมีความสุข ถ้ามัวแต่ตีกันแยกคู่กันเราจะโตได้หรือไม่ ไม่มีใครมาลงทุน ดังนั้นถ้าอยากได้ความสงบอยากได้คนเข้าไปแก้ปัญหาไม่ใช่แค่พูด ต้องเลือกพลเอกประยุทธ์เราไม่แพ้ใครในโลกนี้ ต้องเลือกเบอร์ 22 เท่านั้น” ม.ล.ชโยทิตกล่าว

จากนั้น นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้ขึ้นแนะนำผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 33 เขต พร้อมโดยให้แต่ละคนได้แนะนำตัวท่ามกลางกองเชียร์แห่มาเชียร์อย่างล้นหลาม

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า