เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ขอคะแนนให้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯพร้อมรับฟังปัญหา ย้ำผู้สมัครล้วนเป็นคนมีความรู้ประสบความสำเร็จในหลายอาชีพ จ่อลงเปิดเวทีใหญ่หาเสียงทุกภาค เตรียมเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรค 25 มี.ค.นี้ ปลื้มผลโพลคะแนนนิยมของพรรคและ “ประยุทธ์”ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะภาคใต้
.
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วยนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค ลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดช่วย 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติ หาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ใต้ ประกอบด้วย ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ เขตบางนา-พระโขนง , นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เขตสวนหลวง-ประเวศ และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ เขตวัฒนา-คลองเตย
.
นายเอกนัฏ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ว่า วันนี้มาช่วยผู้สมัครหาเสียงใน 3 พื้นที่ด้วยกัน เป็นพื้นที่กรุงเทพฯใต้ มั่นใจว่าผู้สมัครแต่ละคนเป็นผู้ที่มีความสามารถ และมีคุณภาพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจอาสาเข้ามาทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ และประเทศชาติ โดยพรรคมีความตั้งใจที่จะรวบรวมคนทุกสาขาอาชีพที่มีความสามารถเข้ามาร่วมกันทำงาน ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯเห็นว่าเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้คนรุ่นใหม่ หลายคนประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพอื่นๆที่ไม่ใช่การเมืองเข้ามาทำงานโดยจะมี อดีต ส.ส. ผู้มีประสบการณ์ช่วยให้คำชี้แนะ สนับสนุน เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
ทั้งนี้ ในต่างจังหวัดถนนทุกสายอาจจะมุ่งเป้าไปที่นักเลือกตั้งแต่สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯระหว่างที่จะได้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานอย่างเช่นพื้นที่บางนา พระโขนงมีร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ ที่เป็นอาจารย์แต่ได้ลาออกจากราชการเพื่อมาทำงานด้านการเมืองให้กับส่วนรวม นอกจากนี้ยัง มีนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ startup ที่ประสบความสำเร็จ อาสาเข้ามาทำงาน และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ที่เป็นส.ส.ในพื้นที่อยู่เดิม ทุกคนล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ แต่เราก็มี อดีต ส.ส., อดีตนักการเมืองที่มีประสบการณ์ หลายคนมาช่วยกันวางแผนในเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการทำงานหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีความสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน เพราะมีทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ที่จะร่วมทำงานด้วยกัน
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีโอกาสเห็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกของพรรคลงพื้นที่ช่วย ผู้สมัคร ส.ส.กทม.หาเสียงหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ได้เห็นอย่างแน่นอนแต่วันนี้ลุงตู่ไปจ.ภูเก็ต และมีภารกิจค่อนข้างมากดังนั้นทางพรรคจึงต้องแบ่งสายกันไปทำงาน และเนื่องจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และตนเองก็เคยเป็น ส.ส. กทม.มาก่อน ทำให้มีประสบการณ์ในการหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นจึงจะเป็นคนที่ลงมาช่วยว่าที่ผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่มากเป็นพิเศษ หลังการยุบสภาฯ พรรคก็มีแผนที่จะเปิดเวทีหาเสียงใหญ่ในทุกภาคของประเทศพร้อมเปิดตัวผู้สมัครในทุกพื้นที่ รวมถึงเปิดตัวแคนดิเดตนายกของพรรคในเร็ววันนี้ โดยคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 มีนาคมนี้
.
“พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคถือเป็นแรก ที่ได้จัดตั้งสาขาและตัวแทนครบ 77 จังหวัด จึงมีความพร้อมที่จะประกาศตัวผู้สมัครทุกเขตครบ 400 เขต หลังจากยุบสภาฯ ไปเราก็จะประชุมกรรมการสรรหาคัดเลือกตัวผู้สมัคร และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายส่วนแคนดิเดตนายกฯจะเป็นใครบ้างนั้นอยากให้รอดูกันต่อไป”นายเอกนัฏกล่าว
.
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลคะแนนนิด้าโพล ที่ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้คะแนนนิยมในภาพรวมมาเป็นอันดับ 3 นายเอกนัฏ กล่าวว่า หากดูโพลตั้งแต่เริ่มต้นมาในวันที่ตนรับเข้าตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นครั้งแรก ที่โดนสบประมาทปรามาสมาตลอด แต่มาถึงวันนี้ก็เห็นได้ว่าคะแนนนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากต่ำกว่า 1% ขึ้นมาเป็น 7% เป็น 13-14% โดยเฉพาะคะแนนนิยมในภาคใต้ ของพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นอันดับ 1 และพรรคเองก็มีคะแนนนิยมที่ดี ขณะที่ในกรุงเทพฯหากดูจากผลโพล ก็จะพบว่าเป็นการต่อสู้ที่สูสี ระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลและพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนภาคกลางเห็นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ใน Rating ที่น่าจะสู้ได้ เพราะมีทีมงานที่ดีและมีส.ส. เดิมที่แข็งแรง ในขณะที่ภาคเหนือและอีสานต้องยอมรับว่า พรรคจะต้องทำงานหนักมากขึ้น แต่มั่นใจว่าสามารถสู้กับพรรคอื่นได้อย่างแน่นอน
สำหรับภารกิจของนายเอกนัฏ ช่วงเช้าได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ เขตบางนา-พระโขนง ซึ่งเป็นพื้นที่ ลงสมัครของว่าที่ ร.ต อ.หญิง อัยรดา โดยร่วมพิธีสงฆ์ก่อนพบปะพูดคุยกับสมาชิกพรรค
จากนั้นได้เดินทางไปยังวัดปากบ่อ ซ.อ่อนนุช 35 เขตสวนหลวง ช่วยนายพงษ์พล ยอดเมืองเจริญ หาเสียงในพื้นที่ และจุดที่ 3 ที่ซอย สุขุมวิท 21 เพื่อช่วยนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์หาเสียงในพื้นที่
ทั้งนี้ นายเอกนัฏ ได้รับฟังข้อร้องเรียนและปัญหาต่างๆของประชาชนในพื้นที่ อาทิ การเพิ่มรายได้ค่าตอบแทนของครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การเพิ่มสวัสดิการให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า โดยนายเอกนัฏได้รับข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อนำไปหาแนวทางในการทำงานตามนโยบายของพรรคซึ่งหลายประเด็น ตรงกับแนวคิดและนโยบายของพรรคอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมที่รัฐบาลทำอยู่ และพรรคเองก็หวังที่ทำต่อและทำให้เพิ่มขึ้น