Skip to content
Home » รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 5 ดร.วุฒิพงศ์ ศุภรมย์ -หมอเปรมศักดิ์ เพียยุระ เขต 10

รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 5 ดร.วุฒิพงศ์ ศุภรมย์ -หมอเปรมศักดิ์ เพียยุระ เขต 10

[vc_row][vc_column][vc_column_text]“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาตินำคณะผู้บริหารพรรค พบปะชาวขอนแก่น พร้อมเปิดตัว 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้แก่  ดร.วุฒิพงศ์ ศุภรมย์ เขต 5 และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ เขต 10 ขอนแก่น ระบุพร้อมแก้ทุกข์ให้ประชาชน เกษตรกร โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับข้าว สนับสนุนชาวนาให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ตอนนี้ทำเสร็จแล้วพร้อมเข้าสภาได้ทันทีถ้าได้รับเลือกตั้ง รวมทั้งมีแนวคิดจัดตั้ง “กองทุนฉุกเฉิน” สำหรับ อสม. และ “กองทุนสร้างชาติ” เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนหลังได้รับร้องเรียนเกิดทุกข์จากหนี้ต่างๆ รวมทั้งกองทุนหมู่บ้านด้วย

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 พ.ย. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ,นายวิทยา แก้วภราดรัย,นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรค ร่วมกันประชุมจัดตั้งสาขาพรรคประจำจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 5 ณ หอประชุมโรงเรียนเวียงวงกตวิทยาคมอ.ในเมือง อ.เวียงคำ จ.ขอนแก่น โดยมีสมาชิกพรรคและประชาชนผู้สนับสนุนเดินทางมาร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก

โดยก่อนหน้าที่นายพีระพันธุ์ จะขึ้นกล่าวกับสมาชิกและผู้มาสนับสนุน ได้ทำการสวมเสื้อพรรคให้กับ ดร.วุฒิพงศ์ ศุภรมย์ และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่จะเป็นตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติลงสมัคร ส.ส.ในเขต 5 และเขต 10 ท่ามกลางเสียงปรบมือให้กำลังใจจากสมาชิก

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนทำพรรคสำเร็จแล้วและที่สำคัญมีเพื่อนๆ ที่ จ.ขอนแก่น มาร่วมอุดมการณ์เดียวกัน จึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างพรรคนี้ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนชาวไทยทุกคน รวมถึงแก้ปัญหาให้กับชาว จ.ขอนแก่นด้วย การที่ตนเดินทางมาในสายการเมืองกว่า 30 ปี คิดมาเสมอว่าต้องช่วยประเทศชาติ ตอนนี้หมดเวลาแบ่งสีแบ่งฝ่าย แบ่งค่าย หากมีแนวคิดว่าทุกคนรักชาติเหมือนกันขอให้มารวมกันที่พรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่เป็นธรรมและยุติธรรมอย่างเท่าเทียมเพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้รับรายงานเกี่ยวกับความเดือดร้อนจากหนี้สินต่างๆ ทั้งหนี้กองทุนหมู่บ้าน หนี้จาก ธกส.หรือหนี้สินจากหนี้นอกระบบ จึงมีแนวคิดที่จะจัดตั้ง กองทุนสร้างชาติ เป็นกองทุนฉุกเฉิน รวมทั้งกองทุนสำหรับพี่น้อง อสม.ที่ทำงานเสียสละเพื่อประเทศมาโดยตลอดและสำหรับพี่น้องทุกคนที่เป็นคนไทย นอกจากนี้ยังเห็นว่าทุกข์ของชาวบ้านหลายอย่างมาจากกฎหมายที่ซับซ้อน โดยเฉพาะกฎหมายข้าว ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลูกข้าว แต่กลับไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับข้าวเลย  แต่สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติได้ทำกฎหมายขึ้นมาดูแลเรื่องนี้แล้ว หากมีโอกาสเข้าไปทำงานในสภาฯ ก็สามารถที่จะเสนอกฎหมายได้เลย

“คนที่มาในพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมบอกเลยทุกคนจะต้องมาทำงานเพื่อประเทศชาติเท่านั้น ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เราจะมาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนทุกระดับทุกอาชีพให้ได้รับความยุติธรรม และได้รับโอกาสในการทำมาหากินอย่างเท่าเทียมกัน ของเราไม่มีปฏิรูป อะไรที่มันไม่ดีเรารื้อทิ้งไปเลย อะไรที่ทำให้เกิดภาระกับประชาชนปลดทิ้งไปเลย แล้วมาสร้างสังคมกันใหม่ ศัตรูของพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่ คู่ต่อสู้ทางการเมือง แต่ศัตรูของพรรครวมไทยสร้างชาติคือความลำบาก ทุกข์ของประชาชน และทุกข์ของแผ่นดินนี้เท่านั้น”นายพีระพันธุ์กล่าว

ด้านนายวิทยา กล่าวว่า วันนี้นับเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่พี่น้องทุกสีจะมารวมกัน หลังจากที่ตนและแกนนำ นปช.ที่มีแนวคิดทำงานเพื่อบ้านเมืองเหมือนกันได้มาทำข้อตกลง 4  ข้อ จะต้องปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะสร้างนักการเมืองที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ทำให้สามารถบรรลุข้อตกลงจนสามารถยุติความขัดแย้งเหลือง แดง นับเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากของวันนี้ จึงอยากให้ทุกคนมาร่วมมือกันในการเดินหน้าประเทศชาติไปข้างหน้า

นายวิทยากล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ เน้นเรื่องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่ตนเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาก่อน ทราบว่า อาสาสมัครสาธารณสุขของประเทศมีอยู่จำนวนมาก  แต่ที่ผ่านมาหลายคนประสบปัญหาความเดือดร้อน เพราะปัจจุบัน อสม.มีรายได้เดือนละ 1,000 บาทแต่เวลาเดือดร้อนก็ไม่สามารถจะไปกู้ยืมที่ไหนได้ต้องไปยืมนอกระบบจนกลายเป็นปัญหา จึงมีแนวคิดที่จะจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินสำหรับ อาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.ขึ้น  กองทุนฉุกเฉินนี้จะช่วงแบ่งเบาภาระให้กับผู้ที่ทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวมได้ และหากสามารถสร้างกองทุนนี้ได้ก็อาจจะสร้างเป็นกองทุนในลักษณะเดียวกันให้กับประชาชนทั่วไปได้อีกด้วย ซึ่งแนวคิดนี้ตนได้เสนอแนวคิดไปกับนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรคเรียบร้อยแล้ว และจะเดินหน้าทำเพื่อประชาชนได้หากพรรคมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ภายหลังการประชุมดังกล่าวได้มีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเป็นหนี้ที่เกิดจากกองทุนหมู่บ้านเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายพีระพันธุ์ เพื่อให้ช่วยหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยนายพีระพันธุ์ รับหนังสือและรับปากว่าจะช่วยหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้เดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][/vc_column][/vc_row]