“รวมไทยสร้างชาติ” เนื้อหอม กระแสดีรับสมาชิกเพิ่มทุกวัน “พีระพันธุ์” ย้ำขอทำงานเพื่อชาติ ไม่ใช่พรรคนั่งร้าน ไม่เน้นเล่นการเมือง
นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เปิดเผยว่าหลังจากเปิดตัวพรรคไปเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมซึ่งเป็นเวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์ “รวมไทยสร้างชาติ”ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้มาสมัครสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งผู้ทำงานด้านการเมืองและเป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว ทั้งมีคนรุ่นใหม่ที่อยากจะทำงานด้านการเมืองและมีอุดมการณ์เดียวกันที่มาเข้าร่วมงาน แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้ไปเดินสายหรือติดต่ออะไรกับใครเป็นพิเศษ เพราะทุกคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนก็ยินทีที่จะรับเข้ามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน
สำหรับข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นนายพีระพันธุ์ กล่าวว่าเป็นกระแสที่ต่างคนต่างก็พูดกันไป แต่แล้วเรื่องจริงก็จะปรากฏขึ้นเองในท้ายที่สุด ตนยืนยันว่าการทำพรรคไม่ได้ยึดโยงหรือมีวาระอื่นๆ นอกจากอยากจะเข้ามาทำงานตามความตั้งใจ ในฐานะหัวหน้าพรรคขอยืนยันในอุดมการณ์และแนวทางการทำงานของพรรคตามที่ได้กล่าวในที่ประชุมพรรคคือ การมุ่งเน้นเข้ามาช่วยแก้ปัญหาของชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจนเพื่อเป็นเครื่องมือในการขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคมอย่างแท้จริง โดยสมาชิกที่มาร่วมงานต่างก็มาจากหลายที่มา แต่เป็นพวกเดียวกันที่อยากสร้างพรรคการเมืองที่เป็นนักการเมืองของประชาชนและทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย ไม่ได้มาเพื่อหวังตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด
ที่ผ่านมา 30 ปีที่ตนทำงานด้านการเมืองมาก็พยายามทำหน้าที่อย่างที่ตั้งใจ หลายเรื่องเป็นเรื่องของการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย แต่ตนทำคนเดียวไม่ได้ การที่จะช่วยเหลือประชาชนหรือประเทศต้องทำกันเป็นพรรคการเมือง วันนี้เลยมารวมกันเพื่อสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นพรรคการเมืองที่จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง จะพยายามทำให้กลายเป็นพรรคหลักของประเทศ และจะนำพรรคเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างมั่นคงและเด็ดเดี่ยว
“เราจะไม่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้เพื่อแสวงหาสถานะ อำนาจบารมีทางการเมืองเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา แต่เราจะอาศัยอำนาจทางการเมืองตรงนี้เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนทุกรูปแบบ เราจะไม่เข้าไปทะเลาะทางการเมือง แต่เราจะทะเลาะกับความเหลื่อมล้ำของสังคม เราจะทำสังคมให้เท่าเทียม เราจะทะเลาะกับสิ่งที่ทำให้ประชาชนขาดโอกาสที่จะดำรงชีวิตอย่างเท่าเทียมเสมอภาค” นายพีระพันธุ์กล่าว