Skip to content
Home » ‘อรรถวิชช์’ ชูร่างกม.เครดิตบูโร ปลดพันธะประวัติเสีย 3 ปี-ช่วยคนไทยเข้าถึงแหล่งเงินกู้มากขึ้น พร้อมประเมินปีหน้าเศรษฐกิจทรุด ชี้ธุรกิจไทยไม่ตอบโจทย์ต่างชาติ หลังเทรนด์โลกมุ่งเป้าพลังงานสะอาด แต่ไทยกลับตีตกโซลาร์เสรี

‘อรรถวิชช์’ ชูร่างกม.เครดิตบูโร ปลดพันธะประวัติเสีย 3 ปี-ช่วยคนไทยเข้าถึงแหล่งเงินกู้มากขึ้น พร้อมประเมินปีหน้าเศรษฐกิจทรุด ชี้ธุรกิจไทยไม่ตอบโจทย์ต่างชาติ หลังเทรนด์โลกมุ่งเป้าพลังงานสะอาด แต่ไทยกลับตีตกโซลาร์เสรี

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะข่าวเด็ด NEXT TALK ถึงประเด็นด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยนายอรรถวิชช์ ได้พูดถึงประเด็นเศรษฐกิจในส่วนมาตรการคนละครึ่งพลัส เป็นประเด็นแรกว่า เป็นมาตรการที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยกำลังเดือดร้อนในเรื่องรายได้เป็นอย่างมาก เห็นได้จากกระแสตอบรับที่คึกคัก ซึ่งสาเหตุที่คึกคักเป็นเพราะที่ผ่านมาคนไทยรายได้ลดลง ทำให้ทุกคนต่างต้องการเงินส่วนนี้มาชดเชยรายได้ที่เสียไป ประกอบกับกลุ่มคนที่ได้คนละครึ่ง พลัส ยังเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้รับเงินในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงต้องการได้รับสิทธิจากภาครัฐด้วย อย่างไรก็ดีนายอรรถวิชช์ เชื่อว่า มาตรการคนละครึ่ง พลัส จะไม่ได้ช่วยกระตุ้นการขยายตัวของจีดีพีอย่างมีนัยสำคัญ แค่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ได้เล็กน้อยเท่านั้น พร้อมเสริมว่ามาตรการนี้สะท้อนให้เห็นสภาพเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดีว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญปัญหา เพราะคนมีรายได้น้อยลง แต่หนี้ภาคครัวเรือนกลับสูงถึง 87% ของจีดีพี หรือคือ หนึ่งครอบครัวจะมีหนี้ 7 แสนกว่าบาท ทั้งที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 28,000 บาท และตนยังเชื่อว่า ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะแย่กว่านี้
.
“สำหรับผมแล้วเรื่องนี้จึงเป็นเรื่อง ‘ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ’ โดยเฉพาะในระดับเศรษฐกิจฐานรากที่กำลังจะล่มสลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวและต้องให้ความสำคัญ เพราะปัญหาเศรษฐกิจเกิดกับคนรากหญ้า ต่างจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง 2540 ที่เกิดกับผู้มีรายได้ระดับสูง” นายอรรถวิชช์ กล่าว
.
นายอรรถวิชช์ วิเคราะห์ต่อด้วยว่า ต้นเหตุสำคัญของเรื่องนี้เกิดจากการที่ภาครัฐไม่ได้เตรียมการรองรับในเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวมาจากปัญหาเครดิตบูโรที่คนไทยกว่า 5.7 ล้านคน กำลังติดเครดิตบูโรอยู่ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้เลยอย่างน้อย 3 ปี ต่างจากประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ ที่ใช้ระบบประเมินคะแนนแทน ทำให้ยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมายได้ ซึ่งตนและพรรครวมไทยสร้างชาติ เล็งเห็นปัญหานี้และได้ยกร่างกฎหมายเครดิตบูโร ขึ้นมา เพื่อหวังยกเลิกระบบการแสดงประวัติการจ่ายล่าช้าหรือการติดบูโร 3 ปี ให้เปลี่ยนมาเป็นระบบคะแนนเหมือนประเทศสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายอยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากรัฐสภา
.
“การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ควรทำควบคู่ไปกับการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้อย่างสะดวกด้วย ซึ่งการแก้กฎหมายเครดิตบูโรตามที่ผมและพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอ เป็นหนึ่งในช่องทางที่จะช่วยให้คนไทยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้มากขึ้น ซึ่งผมมั่นใจว่าการปล่อยกู้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินหรือธนาคารแน่นอน แต่ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวจะสำเร็จได้ต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากฝ่ายต่าง ๆ ทั้งสภา ธนาคารให้ร่วมผลักดันร่วมกันให้เกิดขึ้น” นายอรรถวิชช์ กล่าว
.
ประเด็นต่อมาในเรื่องการแก้หนี้ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า นอกจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ภาครัฐต้องแก้โครงสร้างธนาคารควบคู่ไปด้วย เพราะปัญหาโครงสร้างและมุมมองของธนาคารส่งผลให้คนไทยเป็นหนี้ง่ายขึ้น พร้อมกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยปีหน้าว่า จากการประเมินคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีนี้ เพราะปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย รายจ่ายภาครัฐ, การบริโภคภายในประเทศ, ดุลการค้า และการลงทุนในประเทศ มีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในประเทศที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้ต่างประเทศกำลังมุ่งเน้นธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด แต่ไทยกลับยังไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร เห็นได้จากร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ ร่าง พ.ร.บ.โซลาร์เสรี ที่ตนและพรรครวมไทยสร้างชาติ พยายามผลักดันให้คนไทยและภาคธุรกิจได้เข้าถึงการใช้พลังงานสะอาด แต่ก็กลับถูกตีตกโดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งหากภาครัฐและนักลงทุนรายใหญ่ตั้งใจจะให้ประเทศเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาดอย่างแท้จริงก็ควรเร่งส่งเสริมร่างกฎหมายนี้อย่างจริงจัง
.
นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วยว่า เป็นเรื่องที่ผิดปกติทางการเมือง และไม่น่าจะเกิดขึ้น อีกทั้งด้วยเงื่อนไขที่ตกลงกันของพรรคการเมือง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีอายุการทำงานเพียง 4 เดือน จะยังทำให้การทำงานของภาครัฐสะดุด ไม่ต่อเนื่อง และส่งผลให้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควรด้วย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า