วันที่ 20 ตุลาคม 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยพันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายชณทัต ปัทะมะภูวดล สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมการเสวนา ‘กฎหมายที่ต้องรู้ในยุคโซเชียล’ ดำเนินรายการโดย นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
.
ในการเสวนาครั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ได้ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ในการศึกษาด้านนิติศาสตร์ให้แก่นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทร์เกษม และผู้เข้าร่วมงานเสวนา โดยเน้นการให้เหตุผลทางกฎหมายและการตั้งเป้าหมายซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ด้านนิติศาสตร์
.
นายพีระพันธุ์ยังกล่าวถึงความสำคัญของกฎหมายรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญคือพื้นฐานของประชาธิปไตย และกฎหมายรัฐธรรมนูญมีหลักการพื้นฐานอยู่ 2 เรื่อง เรื่องที่หนึ่ง คือ การเคารพสิทธิคนอื่น เพราะถ้าเรารู้แต่สิทธิของตนเอง แต่ไม่เคารพสิทธิคนอื่น สังคมก็อยู่ไม่ได้ เรื่องที่สอง คือ หน้าที่ความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้คือพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยและกฎหมายทั้งหมด
.
นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ยังเชิญชวนให้ตั้งคำถามว่า รัฐธรรมนูญคืออะไร? เพราะถึงแม้จะรู้กันทั่วไปว่ารัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นกฎหมายของเรา เพราะทุกวันนี้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่มีไว้สำหรับการเมือง ดังนั้น สิ่งที่ควรจะแก้มากที่สุดในรัฐธรรมนูญ ก็คือ การแก้ไขให้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายของประชาชนไม่ใช่กฎหมายของนักการเมือง ทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญเป็นหลักกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของประชาชน และมีประโยชน์ต่อประชาชน
.
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่า กองทุนนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างหลักประกันให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมตามสิทธิที่พึงมี แต่ก็มีคนที่ไม่ใช้หนี้ กยศ. และมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วได้รับแค่กระดาษใบเดียว ไม่สามารถบังคับคดีได้ สาเหตุของการไม่ใช้หนี้ กยศ. แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มที่ 1 คือ คนที่เรียนแล้ว มีความรู้แล้ว มีงานแล้ว แต่ตั้งใจไม่ใช้หนี้ กลุ่มที่ 2 คนที่เรียนแล้ว มีความรู้แล้ว มีงานแล้ว แต่มีภาระทางครอบครัว ทำให้ไม่สามารถใช้หนี้ได้ และกลุ่มที่ 3 กลุ่มที่เรียนแล้ว มีความรู้แล้ว แต่ไม่มีงาน ทำให้ไม่สามารถใช้หนี้ได้ โดยการฟ้องร้องดำเนินคดีควรดำเนินการเฉพาะประเภทที่ 1 คือ คนที่ตั้งใจโกง อีก 2 ประเภท ควรให้พวกเขาใช้หนี้ด้วยงาน จากความรู้ที่รัฐอุดหนุนให้ทุนการศึกษา ใครมีความรู้ด้านไหนก็ให้นำความรู้เรื่องนั้นสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประชาชน และนี่คือแนวทางที่จะใช้ในการแก้ปัญหาหนี้ กยศ. ซึ่งตนอยากเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วย
.
“สุดท้ายนี้ การเรียนรู้ทางด้านกฎหมาย เราจะต้องใช้ความรู้กฎหมายเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ใช้ความรู้กฎหมายเพื่อช่วยคนดีที่ทำผิดพลาด และใช้กฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือคนที่ดี” นายพีระพันธุ์ กล่าว
