“แก้ม พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์” อดีตผู้สมัคร สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการเข้ามาทำงานการเมืองว่า
.
จุดเริ่มต้นเส้นทางการเมืองของ “พัชรนันท์” เริ่มมาจากช่วงวิกฤตโควิดที่ได้มีโอกาสจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดร่วมกับกรุงเทพมหานคร, หอการค้าไทย และโรงพยาบาลศิริราช ทำให้ช่วงนั้นเธอทำงานร่วมกับทีมหมอพร้อม เพื่อออกแบบการสื่อสาร จัดแบ่งลำดับความสำคัญของกลุ่มคนที่ต้องได้วัคซีนก่อน-หลัง นอกจากนั้นเป็นผู้ริเริ่มการใช้หุ่นยนต์นำทางและให้ข้อมูลร่วมกับ QueQ เพื่อนำมาช่วยจัดคิว จัดระเบียบให้คนไทยทุกคนได้เข้าคิวฉีดวัคซีนอย่างเป็นระบบ ทำให้ศูนย์ฉีดวัคซีนดังกล่าวเป็นหนึ่งในศูนย์ฉีดวัคซีนให้คนไทยได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในไทย และเป็นโครงการฉีดวัคซีนโควิดที่ช่วยชีวิตคนได้เยอะมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร กว่า 75,000 คน ทำให้ตกผลึกได้ว่าประโยชน์ส่วนรวมต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
.
จากนั้นจึงได้เริ่มเข้าสู่งานทางการเมืองโดยเข้าร่วมทีมรักษ์กรุงเทพ ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในช่วงเลือกตั้ง เมื่อปี 2565 ซึ่งในปัจจุบันท่านเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยได้มีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์นโยบายของผู้สมัคร ช่วยเหลือและแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ ทำให้ได้เรียนรู้งานเบื้องหลังทางการเมือง และกลายเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ทำให้เห็นถึงความจริงใจและตั้งใจจริง
.
เมื่อตัดสินใจจะเข้ามาทำงานการเมือง ตนและพรรครวมไทยสร้างชาติ มีอุดมการณ์ แนวคิด ทัศนคติทางการเมือง หลาย ๆ อย่างที่เหมือนกัน โดยเฉพาะสิ่งสำคัญ คือ การทำงานเพื่อชาติและประชาชนเป็นหลัก ไม่เล่นการเมือง ไม่เล่นละคร เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และผู้หญิงได้แสดงศักยภาพที่มีอยู่อย่างเท่าเทียมกัน ความเชื่อมั่นใน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจ ท่านมีความตรงไปตรงมา มีความเที่ยงธรรม ทั้งยังรอบรู้กฎหมาย ที่สำคัญยังมีความสามารถ เด็ดเดี่ยว มั่นคง และพร้อมจะพังทุกโครงการที่เอาเปรียบประชาชนคนไทย
.
พัชรนันท์ กล่าวต่อไปว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตนได้รับโอกาสลงสมัครเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดกรุงเทพ เขต 9 หลักสี่-บางเขน-จตุจักร ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งต้นชีวิต ผูกพันกับพื้นที่นี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ เนื่องจากเป็นทั้งสถานที่เกิด เติบโต ใช้ชีวิต เรียนหนังสือจึงเรียกได้ว่าทั้งคุ้นเคย รู้จักทางลัด สามารถเดินเข้า-ออกทุกตรอกซอกซอยได้อย่างชำนาญ และการลงพื้นที่ได้เห็นถึงปัญหาของพื้นที่และพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
.
เมื่อถามถึงนโยบายที่อยากจะทำหรือผลักดัน พัชรนันท์ ขอตั้งชื่อให้นโยบายของตนว่า นโยบาย 2 ส ประกอบด้วย ส สาธารณสุข และ ส สิ่งแวดล้อม โดย ส แรก นั้น มีองค์ประกอบสำคัญ คือ การดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจของคนไทยต้องได้รับการรักษาอย่างทั่วถึงและทันท่วงที หากประชาชนมีสุขภาพที่ดี ส่วน ส ที่สอง เป็นเรื่องของความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ที่คนรุ่นปัจจุบันต้องใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า หันมาใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น ลดการก่อมลพิษ เพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศให้ยั่งยืน
.
โดยมีความสนใจและต้องการผลักดันทำเพื่อประเทศมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือ เรื่องการพัฒนาระบบสาธารณสุข เพราะการเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมมีคุณภาพ เป็นสิ่งที่สำคัญและช่วยยกระดับชีวิตทุกคนได้
.
“ในทุกวันนี้สังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมอยู่มาก งบประมาณถูกบริหารจัดการไม่ทั่วถึง บุคลากรทางการแพทย์และจำนวนโรงพยาบาลไม่เพียงพอต่อ ค่ารักษาที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยมองว่าอัตราค่ารักษา ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์ต่าง ๆ จะต้องมีราคากลาง ทุกคนต้องสามารถซื้อยาได้ในราคาเดียวกันควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประชาชนดูแลสุขภาพแบบ Pro Active เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อลดการเจ็บป่วยและลดปัญหาค่าใช้จ่ายที่จะตามมา โดยต้องขับเคลื่อนทั้งกฎข้อระเบียบและส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์ในประเทศไทย รวมไปถึงสนับสนุนการวิจัยของคนไทยให้คิดค้นนวัตกรรมทางแพทย์โดยคนไทยอีกด้วย” พัชรนันท์ กล่าวในตอนท้าย
