วันที่ 11 กันยายน 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์” ว่า
.
“มติเอกฉันท์! ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง ปมยื่นตรวจสอบพีระพันธ์ุ เรื่องหุ้น
.
ดิฉัน ขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ยืนหยัดบนข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย และ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไม่หวั่นไหวไปกับเกมการเมืองเหล่านี้
.
เหตุผลสำคัญที่ศาลไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เพราะผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด อีกทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงจากการกระทำของผู้ถูกร้อง
.
การฟ้องร้องโดยไม่เข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย ไม่เพียงแต่ทำให้เสียเวลาของทุกฝ่าย แต่ยังบั่นทอนชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของตัวผู้ร้องอีกด้วย
.
พรรครวมไทยสร้างชาติจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานเพื่อบ้านเมือง และพี่น้องประชาชนต่อไปอย่างเต็มกำลัง”
.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องกรณี นายสนธิญา สวัสดี ผู้ร้อง ยื่นต่อศาลให้พิจารณาความเป็นรัฐมนตรีของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สิ้นสุดลง โดยอ้างว่ามีการถือครองหุ้นต้องห้ามและขาดคุณสมบัติด้านจริยธรรมทางการเมือง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าการยื่นคำร้องดังกล่าวไม่เป็นไปตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และผู้ร้องไม่มีสิทธิในการยื่นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ศาลจึงมีมติเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา
.
นางสาวศศิกานต์ ระบุว่า คำสั่งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การฟ้องร้องโดยปราศจากกระบวนการที่ถูกต้องและข้อเท็จจริงที่เพียงพอ ไม่เพียงแต่ทำให้เสียเวลาของทุกฝ่าย แต่ยังสะท้อนกลับไปบั่นทอนความน่าเชื่อถือของผู้ร้องเอง พร้อมย้ำว่าการเมืองที่สร้างสรรค์ควรตั้งอยู่บนหลักการ ความจริง และความรับผิดชอบต่อสังคม มากกว่าการใช้ช่องทางร้องเรียนเพื่อหวังผลทางการเมือง

