วันที่ 29 สิงหาคม 2568 นายอนุชา บูรพชัยศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยประโยชน์ที่พ่อแม่พี่น้องคนไทยและการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะได้รับจากการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวมีอยู่ด้วยกัน 7 ข้อหลัก ประกอบด้วย
.
1.ยกระดับประสิทธิภาพและขอบเขตการดำเนินงาน
การขยายวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของการท่าเรือฯ ทำให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้ ครอบคลุมทั้งด้านการขนส่ง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารงานรัฐวิสาหกิจ และปรับตัวให้ทันต่อสภาพเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
.
2.ส่งเสริมการเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ระดับชาติ
การพัฒนาท่าเรือให้เชื่อมโยงกับการขนส่งทางถนน ทางราง และทางอากาศอย่างบูรณาการ สนับสนุนการพัฒนา ท่าเรือบก (Dry Port) และ Smart Port ซึ่งช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพิ่มความรวดเร็ว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางการค้า
.
3.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล
การยกระดับมาตรฐานบริการ การกำหนดตัวชี้วัด (KPI) และมาตรการกำกับดูแลการร่วมลงทุนกับเอกชนเปิดโอกาสให้เอกชนมีบทบาทมากขึ้น แต่ยังอยู่ภายใต้กรอบกำกับดูแลที่เข้มงวด ส่งเสริมการบริการที่มีคุณภาพและแข่งขันได้ในระดับโลก
.
4.การพัฒนาเมืองควบคู่ไปกับท่าเรือ
ส่งเสริมการวางผังเมือง การจราจร การจัดการสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับการพัฒนาท่าเรือ ลดผลกระทบต่อชุมชนและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนรอบพื้นที่ท่าเรือ
.
5.ความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน
การปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการและระบบการบริหาร ทำให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือ การเงิน กฎหมาย และการบริหารเข้ามามีส่วนร่วมสร้างระบบตรวจสอบและความรับผิดชอบที่ชัดเจนมากขึ้น
.
6.การพัฒนาทรัพยากรบุคคลและองค์กร
สนับสนุนการอบรมบุคลากรและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี กฎหมาย และการจัดการ ทำให้การท่าเรือฯ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและเพิ่มศักยภาพการให้บริการ
.
7.การปรับปรุงบทกำหนดโทษให้ทันสมัย
การปรับอัตราโทษให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องปรามการกระทำผิด และสร้างความตระหนักในการปฏิบัติตามกฎหมาย
.
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า โดยสรุปแล้วการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะช่วยให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยสามารถยกระดับองค์กรให้เป็นองค์กรที่ทันสมัย โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญจะสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ พร้อมทั้งจะสร้างประโยชน์ต่อระบบโลจิสติกส์ของประเทศและคุณภาพชีวิตของพ่อแม่พี่น้องโดยรอบด้วย
