Skip to content
Home » พัฒนาบ้านโป่งให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ‘อัครเดช’ ถามแนวทางพัฒนาอำเภอบ้านโป่งจากทางผ่านสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว

พัฒนาบ้านโป่งให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ‘อัครเดช’ ถามแนวทางพัฒนาอำเภอบ้านโป่งจากทางผ่านสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว

วันที่ 28 สิงหาคม 2568 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ตั้งกระทู้ถามถึงแนวทางพัฒนาอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า
.
จากการดำเนินการโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี หรือ M81 ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการเดินทางไปยังภาคตะวันตกเป็นอย่างมาก จากเดิมที่ต้องใช้เส้นทางจังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี เป็นการเดินทางโดยใช้เส้นทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจังหวัดทางผ่านเดิม เช่นเดียวกับตัวอำเภอเมืองชลบุรีที่เคยเป็นแหล่งพักกลางทางระหว่างกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา แต่เมื่อมีทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายภาคตะวันออกเกิดขึ้น จึงทำให้แหล่งพักของอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรีลดความสำคัญลงไป
.
จึงเป็นที่มาที่เมื่อครั้งวาระการเป็นสภาผู้แทนราษฎรในครั้งที่แล้ว ตนในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ได้ใช้กลไกของคณะกรรมาธิการในการหารือทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) หรือ อพท. เพื่อพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดราชบุรี อันได้แก่อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม และอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
.
ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนอำเภอบ้านโป่งจากจุดแวะพักการเดินทาง เป็นจุดหมายปลายทางหรือ Destination ของนักท่องเที่ยว ซึ่งได้มีการประชุมและร่วมผลักดันกับทั้ง อพท. หน่วยงานราชการ เอกชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีส่วนร่วมในจังหวัดราชบุรี เพื่อให้การผลักดันเป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อผลักดันให้อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม และอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และให้เกิดความสมดุลทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม
.
ซึ่งทราบเบื้องต้นว่าทางคณะกรรมการ อพท. หรือ บอร์ด อพท. ได้ให้ความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีการนำเสนอต่อทางคณะกรรมการ พพท. เพื่อประกาศให้ทั้ง 3 อำเภอของจังหวัดราชบุรีได้ประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป
.
แต่ในระยะต่อมาความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวกลับหายไป ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม จึงได้อาศัยกลไกของคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมในการติดตามความคืบหน้าและได้รับทราบว่าได้มีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องกับ อพท. เป็นเหตุให้ยังไม่มีการพิจารณาในลำดับต่อไป
.
จึงเป็นที่มาของคำถามแรกว่า ปัจจุบันการดำเนินการโครงการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรีในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม และอำเภอสวนผึ้ง เป็นพื้นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมีความคืบหน้าอย่างไร ขอทราบรายละเอียด
.
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ตอบคำถามดังกล่าวว่า องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) หรือ อพท. มีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณและบุคลากรมาโดยตลอด และโดยปกติใช้ระยะเวลาในการประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนนั้นใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี หรือ 1 ปี 6 เดือนโดยประมาณ จึงต้องมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณโดยการเพิ่มขั้นตอนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้อนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อความสะดวกในการจัดสรรงบประมาณผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
.
โดยคาดว่าในช่วงประมาณกลางปีหน้าจะสามารถแก้ไขกฎที่เกี่ยวข้องจะดำเนินแล้วเสร็จ และเชื่อว่าทั้ง 3 อำเภอในจังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะอำเภอบ้านโป่งจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นพื้นที่ต้น ๆ ในการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนอย่างแน่นอน
.
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ดังที่ได้นำเรียนไปข้างต้นว่าเมื่อมีทางพิเศษจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแวะพักในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีจะลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในชุมชนของอำเภอบ้านโป่ง จึงมีความคาดหวังของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอบ้านโป่ง ที่อย่างเห็นการผลักดันอำเภอบ้านโป่งซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นบึงกระจับ ศาลเจ้าแม่เบิกไพร ฯลฯ และรวมถึง Soft Power ด้านอาหารที่มีอาหารหลากหลายชนิดอร่อยจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมในอำเภอบ้านโป่ง จะเห็นได้ว่าอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี มีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้พื้นที่ใด ๆ
.
จึงเป็นที่มาของคำถามที่ 2 ว่าในช่วงระหว่างการรอประกาศให้อำเภอบ้านโป่งเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีนโยบายอย่างไรในการพัฒนาให้อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทาง รวมทั้งการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอำเภอบ้านโป่งอย่างไรบ้าง
.
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ตอบในคำถามนี้ว่า ทุกพื้นที่ในประเทศล้วนแต่มีจุดขาย และพื้นที่จังหวัดราชบุรีคือหนึ่งในพื้นที่ที่ทางคณะรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญในฐานะเมืองน่าเที่ยว และได้มีการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้ทุกพื้นที่ของจังหวัดราชบุรี รวมทั้งอำเภอบ้านโป่งให้เป็นเมืองน่าเที่ยวหรือเมืองรองที่เรารู้จักกัน ผ่านการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น การจัดสรรงบประมาณพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะบึงกระจับ รวมทั้งการพัฒนา Street Art ในพื้นที่บ้านโป่ง และการจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip บ้านโป่ง-โพธาราม เป็นต้น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า