วันที่ 27 สิงหาคม 2568 นายจุติ ไกรฤกษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่า ตนเห็นด้วยกับความตั้งใจดีและความมุ่งหมายที่รัฐบาลต้องการให้คนไทยได้โดยสารรถไฟฟ้าในอัตราราคาถูก แต่ตนไม่เห็นด้วยกับวิธีการอุดหนุนงบประมาณ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้ประเทศมากกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งนี้ จุดประสงค์ของการแก้ร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว คือ เพื่อเสริมสภาพคล่องของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับจะเป็นการสร้างภาระ สร้างปัญหาด้านวินัยทางการเงินการคลังให้กับ รฟม. มากขึ้น เพราะปัจจัยต่าง ๆ ทั้งการบริหารที่ไม่รู้ต้นทุนการชดเชยงบประมาณที่แท้จริง, การมีอิสระในการออกพันธบัตร, การไม่สามารถประเมินความคุ้มค่า และการมีช่องว่างของการเสี่ยงเกิดทุจริต ซึ่งในข้อสังเกตของรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า การให้ รฟม.ออกพันธบัตรหรือตราสารหนี้ อาจเกิดความสุ่มเสี่ยงทางการคลัง เช่นเดียวกับการอนุญาตให้นำเงินไปอุดหนุนระบบตั๋วร่วมค่ารถไฟฟ้าอาจเสี่ยงส่งผลให้รายได้ของรัฐลดลงอย่างมีนัยสำคัญและส่งผลเสี่ยงต่อวินัยทางการเงินการคลังของรัฐ
.
นายจุติ กล่าวด้วยว่า นอกจากความเสี่ยงด้านวินัยการเงินการคลังแล้ว การนำงบประมาณไปอุดหนุน รฟม. ยังเสี่ยงขัดต่อหลักธรรมาภิบาล และยังเป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่เหมาะสม ที่สำคัญเป็นการสร้างผลกระทบมหาศาลให้กับประเทศ พร้อมย้ำว่าสภาพคล่องของ รฟม.ยังแก้ไขได้ แต่ภาระหนี้ของประเทศในภาพรวมเป็นสิ่งที่แก้ยากกว่า ซึ่งตนไม่ต้องการให้ภาพเช่นนี้เกิดขึ้นกับประเทศไทย
.
“แม้จะเห็นด้วยกับการส่งเสริมให้คนไทยได้โดยสารรถไฟฟ้าในราคาที่ถูก แต่ย้ำว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีการอุดหนุนงบประมาณ เพื่อสร้างประโยชน์ให้คนในเมือง แต่คนทั้งประเทศกลับต้องเสี่ยงแบกภาระมหาศาล พร้อมย้ำว่า ขณะนี้รัฐบาลก็มีเงินกู้ที่ต้องจ่ายจำนวนหลายแสนล้านบาท ถ้าปล่อยให้มีการดำเนินการเช่นนี้ก็มองเห็นถึงเส้นทางความเสี่ยงของประเทศเป็นอย่างมาก ทางที่ดีตนหวังให้นำงบประมาณดังกล่าวไปช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงจะตอบโจทย์ประเทศและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า เพราะสภาฯ ต้องดูแลคนทั้งประเทศ 70 ล้านคน ไม่ใช่ผู้ที่โดยสารรถไฟฟ้าเพียง 2 ล้านคน” นายจุติ กล่าว
