วันที่ 13 สิงหาคม 2568 นายจุติ ไกรฤกษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในส่วนของการโอนเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย ว่า
.
ตนมีความเห็นว่าให้กระทรวงการคลังสามารถเปลี่ยนแปลงตามกฎหมายควรทำเพียงปีนี้ปีเดียวเท่านั้น เนื่องจากต้องยอมรับว่าการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลและกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ยังไม่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของประเทศ และมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพื่อตอบสนองกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
.
แต่ในปีต่อ ๆ ไป หากให้มีการทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้จะเป็นเพียงปกในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่กิจกรรมโครงการจะเป็นการทำกันเองของรัฐบาลและข้าราชการ โดยไม่ฟังเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะสะท้อนความทุกข์และข้อกังวลของราษฎร
.
ดังนั้นตนจึงขอให้เพิ่มข้อความว่า การโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณให้ประเมินความคุ้มค่า และเหตุผลในการเปลี่ยนแปลง และรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรทราบภายใน 60 วัน หากละเลยให้มีโทษทางวินัย
.
เนื่องจากหลายครั้งแม้มีมติคณะรัฐมนตรี มีประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก แต่ในขั้นตอนปฏิบัติกลับมีการแปลงนโยบายเป็นชิ้นงานอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน
.
ดังนั้นในการเปลี่ยนแปลงรายการในงบประมาณจะต้องมีการประเมินความคุ้มค่าในทุกเรื่อง หากไม่คุ้มค่าไม่ต้องทำ
.
ตนมีความเห็นว่าให้กระทรวงการคลังสามารถเปลี่ยนแปลงตามกฎหมายควรทำเพียงปีนี้ปีเดียวเท่านั้น เนื่องจากต้องยอมรับว่าการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลและกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ยังไม่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของประเทศ และมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพื่อตอบสนองกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
.
แต่ในปีต่อ ๆ ไป หากให้มีการทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้จะเป็นเพียงปกในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่กิจกรรมโครงการจะเป็นการทำกันเองของรัฐบาลและข้าราชการ โดยไม่ฟังเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะสะท้อนความทุกข์และข้อกังวลของราษฎร
.
ดังนั้นตนจึงขอให้เพิ่มข้อความว่า การโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณให้ประเมินความคุ้มค่า และเหตุผลในการเปลี่ยนแปลง และรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรทราบภายใน 60 วัน หากละเลยให้มีโทษทางวินัย
.
เนื่องจากหลายครั้งแม้มีมติคณะรัฐมนตรี มีประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก แต่ในขั้นตอนปฏิบัติกลับมีการแปลงนโยบายเป็นชิ้นงานอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน
.
ดังนั้นในการเปลี่ยนแปลงรายการในงบประมาณจะต้องมีการประเมินความคุ้มค่าในทุกเรื่อง หากไม่คุ้มค่าไม่ต้องทำ
