วันที่ 7 สิงหาคม 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ร่วมกันบรรจุสิ่งของอุปโภค-บริโภค ใส่ถุงยังชีพเพื่อเตรียมนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้ประสบภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรุงเทพฯ
.
นายเอกนัฏ เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจส่งด่วน ลำเลียงน้ำใจส่งถึงมือผู้ประสบภัยชาวไทย” ซึ่งสิ่งของในถุงยังชีพ ประกอบด้วย เครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพ่อแม่พี่น้อง อาทิ โจ๊ก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ขนม กาแฟ-โอวัลติน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม แป้ง น้ำยาล้างจาน ผ้าอนามัย ผงซักฟอก ทั้งยังมีชุดเครื่องนอน มุ้ง ผ้าเช็ดตัว น้ำดื่ม และข้าวสาร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และยังมีชุดทหารที่ผลิตโดยผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในจังหวัดลำปาง ตัวเนื้อผ้ามีความคงทน สีไม่ตก และระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยคลายร้อนให้เจ้าหน้าที่ทหาร อีกจำนวน 100 ชุด โดยทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปช่วยเหลือทหารและพี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทางบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ได้อาสาช่วยเหลือเป็นผู้ขนส่งถุงยังชีพดังกล่าว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้มั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือจะไปถึงมือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว
.
“วันนี้กระทรวงอุตสาหกรรม มาทำหน้าที่ส่วนเล็ก ๆ ในการเปิดศูนย์รวบรวมความช่วยเหลือจากอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่รวมใจกัน เพื่อส่งมอบข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้ศูนย์พักพิงและพี่น้องทหารไทย และขอย้ำว่า “กองหลัง” คนนี้ พร้อมสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กองทัพแบบสุดซอย” นายเอกนัฏ กล่าว
.
ด้านนายพงศ์พล กล่าวเสริมว่า ภารกิจในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะขอเป็นอีกหนึ่งองค์กรหลักในการช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องในทุกสถานการณ์ พร้อมย้ำว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่พร้อมจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนไทยทุกคนในยามที่เดือดร้อนด้วย
.
นายเอกนัฏ เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจส่งด่วน ลำเลียงน้ำใจส่งถึงมือผู้ประสบภัยชาวไทย” ซึ่งสิ่งของในถุงยังชีพ ประกอบด้วย เครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพ่อแม่พี่น้อง อาทิ โจ๊ก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ขนม กาแฟ-โอวัลติน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม แป้ง น้ำยาล้างจาน ผ้าอนามัย ผงซักฟอก ทั้งยังมีชุดเครื่องนอน มุ้ง ผ้าเช็ดตัว น้ำดื่ม และข้าวสาร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และยังมีชุดทหารที่ผลิตโดยผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในจังหวัดลำปาง ตัวเนื้อผ้ามีความคงทน สีไม่ตก และระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยคลายร้อนให้เจ้าหน้าที่ทหาร อีกจำนวน 100 ชุด โดยทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปช่วยเหลือทหารและพี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทางบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ได้อาสาช่วยเหลือเป็นผู้ขนส่งถุงยังชีพดังกล่าว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้มั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือจะไปถึงมือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว
.
“วันนี้กระทรวงอุตสาหกรรม มาทำหน้าที่ส่วนเล็ก ๆ ในการเปิดศูนย์รวบรวมความช่วยเหลือจากอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่รวมใจกัน เพื่อส่งมอบข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้ศูนย์พักพิงและพี่น้องทหารไทย และขอย้ำว่า “กองหลัง” คนนี้ พร้อมสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กองทัพแบบสุดซอย” นายเอกนัฏ กล่าว
.
ด้านนายพงศ์พล กล่าวเสริมว่า ภารกิจในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะขอเป็นอีกหนึ่งองค์กรหลักในการช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องในทุกสถานการณ์ พร้อมย้ำว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่พร้อมจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนไทยทุกคนในยามที่เดือดร้อนด้วย
