วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย เปิดเผยถึงการขยายผลการตรวจสอบเหตุการณ์พบกากพิษซุกดินเกือบ 5 หมื่นตัน ในที่ดิน 11 ไร่ บริเวณ ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้ได้ขยายผลมาถึงบริษัทของผู้เป็นบิดาของเจ้าของพื้นที่ที่พบกากพิษซุกดิน ซึ่งก็คือ บริษัท เค เอส ดี รีไซเคิล จำกัด ที่ตั้งอยู่บริเวณ ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยจากการเข้าตรวจสอบพบเครื่องจักร กองกากอุตสาหกรรมทั้งบนดินและฝังดิน ลักษณะการประกอบกิจการคล้าย ๆ กันทั้งครอบครัว คือ เปิดบริษัทรีไซเคิลรับกำจัดกากอุตสาหกรรม แต่กลับไม่นำกากอุตสาหกรรมไปกำจัดให้ถูกต้องตามกระบวนการ โดยนำไปเก็บและฝังกลบไว้ในที่ดินของตนเองแทน เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหาประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมได้เข้าเก็บตัวอย่างดินและน้ำในพื้นที่เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ หากผลปนเปื้อนเข้าข่ายเป็นของเสียที่เป็นวัตถุอันตราย เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายด้วย
.
นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า จุดพีคไม่ได้เพียงแค่พบลาสบอสแห่งบ้านล้อคำ แต่ยังได้ข้อมูลบัญชีส่วยจำนวนมากยาวเป็นหางว่าว ที่จ่ายให้ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ตำรวจ ข้าราชการ รวมถึงเชื่อมโยงถึงเครือข่ายเอกอุทัย และบริษัท วิน โพรเสส กลุ่มอาชญากรทางสิ่งแวดล้อม ที่กระจายตัวสร้างความเสียหายให้กับคนไทยและประเทศไทยอย่างประเมินค่าไม่ได้ โดยปัจจุบันหนึ่งในผู้บริหารเอกอุทัยและวิน โพรเสส ถูกจับเข้าเรือนจำจนเสียชีวิตในเรือนจำ ส่วนจำเลยที่เหลือยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายในชั้นศาล พร้อมย้ำว่า การที่นักลงทุนต่างชาติบางกลุ่มเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ทำร้ายคนไทย ทำลายสิ่งแวดล้อมไทยได้ ก็เพราะมีไทยเทา นักการเมือง ข้าราชการสีดำ คอยชี้ช่อง ช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์ ทำกันจนเป็นขบวนการเครือข่าย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และตนจะไม่ปล่อยเรื่องเช่นนี้ให้เกิดขึ้นเด็ดขาดและจะตามจัดการทั้งขบวนการจนกว่าจะหมดสิ้น
