วันที่ 11 มิถุนายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมงาน Cocktail Reception ซึ่งจัดโดยสมาคมการค้าไทย-ยุโรป (TEBA) เนื่องในโอกาสการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พ.ศ. 2568 (Annual General Meeting: AGM) เพื่อหารือ แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และแนวทางการกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและบริษัทในเครือทวีปยุโรป พร้อมด้วย ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI, ผู้แทนจาก the Delegation to the European Union to Thailand Ms. Renita Bhaskar, Minister Counsellor, Head of Trade and Economic Section และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีนายปิแอร์ เจฟเฟร่ นายกสมาคมการค้าไทย-ยุโรป และผู้บริหารสมาคมฯ จากบริษัทและนักลงทุนชั้นนำของยุโรป ให้การต้อนรับ ณ โรงแรม ดิ แอทธินี กรุงเทพฯ
.
นายเอกนัฏ กล่าวว่า สมาคมการค้าไทย-ยุโรป มุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจยุโรป ให้เข้าถึงตลาดในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนที่แข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังสนับสนุนข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (Thai-EU Free Trade Agreement: FTA) ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยลดภาษีและอุปสรรคทางด้านการค้าการลงทุน แต่ยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการยุโรปในประเทศไทยที่นับวันจะมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น อันจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการผลิตในอุตสาหกรรมท้องถิ่น ส่งเสริมการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและการจ้างงาน พร้อมทั้งยกระดับและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ นอกจากนี้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะต้องควบคู่กับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอนต่อโลก ซึ่งประเทศไทย ให้ความสำคัญในการต่อสู้กับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก เพื่อการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน และที่ผ่านมา สมาคมการค้าไทย-ยุโรป มีการส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทย ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสนับสนุนการลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีสีเขียว รวมถึงภาคพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม
.
ทั้งนี้ สมาคมการค้าไทย-ยุโรป ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยเป็นสมาคมธุรกิจการผลิตและบริการเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วยบริษัทชั้นนำของยุโรปและนักลงทุนจากภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์, การบินและอวกาศและบริการ ภารกิจหลักของสมาคมการค้าไทย-ยุโรป คือ การส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างยุโรปและไทย ในขณะเดียวกันมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และช่วยเหลือธุรกิจไทยและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการแข่งขันในห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคและระดับโลกอีกด้วย
.
นายเอกนัฏ กล่าวว่า สมาคมการค้าไทย-ยุโรป มุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจยุโรป ให้เข้าถึงตลาดในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนที่แข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังสนับสนุนข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (Thai-EU Free Trade Agreement: FTA) ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยลดภาษีและอุปสรรคทางด้านการค้าการลงทุน แต่ยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการยุโรปในประเทศไทยที่นับวันจะมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น อันจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการผลิตในอุตสาหกรรมท้องถิ่น ส่งเสริมการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและการจ้างงาน พร้อมทั้งยกระดับและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ นอกจากนี้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะต้องควบคู่กับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอนต่อโลก ซึ่งประเทศไทย ให้ความสำคัญในการต่อสู้กับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก เพื่อการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน และที่ผ่านมา สมาคมการค้าไทย-ยุโรป มีการส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทย ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสนับสนุนการลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีสีเขียว รวมถึงภาคพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม
.
ทั้งนี้ สมาคมการค้าไทย-ยุโรป ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยเป็นสมาคมธุรกิจการผลิตและบริการเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วยบริษัทชั้นนำของยุโรปและนักลงทุนจากภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์, การบินและอวกาศและบริการ ภารกิจหลักของสมาคมการค้าไทย-ยุโรป คือ การส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างยุโรปและไทย ในขณะเดียวกันมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และช่วยเหลือธุรกิจไทยและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการแข่งขันในห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคและระดับโลกอีกด้วย
