วันที่ 9 มิถุนายน 2568 นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเปิดตัว “มอก.วอทช์” ระบบอัจฉริยะที่ใช้ AI ตรวจสอบสินค้าไม่ได้มาตรฐานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทาง ครอบคลุมการตรวจสอบนับแสนรายการ พร้อมขยายภารกิจ “ทีมสุดซอย” เข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปกป้องผู้บริโภคและแก้ไขปัญหาสินค้าข้ามชาติทะลักไร้คุณภาพที่กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย
.
นายพงศ์พล ได้อ้างอิงรายงานสถานการณ์การทะลักเข้าของสินค้าข้ามชาติของสภาอุตสาหกรรมที่ระบุว่า สถานการณ์การทะลักเข้าไทยของสินค้าข้ามชาติมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่วนมากเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ ทั้งยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประกอบการและผู้ผลิตไทย ทั้งในเรื่องของการแข่งขันด้านราคา การละเมิดลิขสิทธิ์ และการลักลอบนำเข้ามาสวมสิทธิ์ในการส่งออก ซึ่งปัจจุบันได้เกิดปัญหานี้ขึ้นในสินค้าทุกชนิด จนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างรุนแรง
.
นายพงศ์พล กล่าวต่อว่า นายเอกนัฏ เล็งเห็นถึงความปลอดภัยของพ่อแม่พี่น้องคนไทยเป็นสำคัญ และด้วยข้อจำกัดของจำนวนเจ้าหน้าที่ นายเอกนัฏ จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อปฏิรูปอุตสาหกรรม(INDX) ที่นำโดยตนเข้าดำเนินการปราบปรามและป้องกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
โดยคณะกรรมการ INDX ได้พิสูจน์ผลงานมาแล้วจากความสำเร็จของระบบ “แจ้งอุต” ช่องทางออนไลน์ ร้องเรียนภาคอุตสาหกรรมเพื่อประชาชนได้รับความนิยมอย่างสูงสุด และตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาคณะกรรมการINDX เดินหน้าพัฒนาระบบที่ป้องกันผู้บริโภคจากสินค้าไม่ได้มาตรฐานที่เรียกว่า “มอก.วอทช์” ซึ่งได้ใช้กลไกในการพัฒนาเวอร์ชันแรกในการตรวจจับสินค้าที่ไม่ได้ มอก. โดยใช้ “บอทอัตโนมัติ” แทนมนุษย์ ในการเข้าไปตรวจสอบข้อมูลสินค้าบนหน้าเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ ที่ใช้เทคโนโลยี Ai จับ Keyword หรือ รูปภาพ เปรียบเทียบข้อมูลในระบบของ มอก. พร้อมรวบรวมลิ้งก์ที่ผิด พรบ. มอก. ซึ่งในระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา Ai “มอก.ว็อทช์” ได้ตรวจจับและรวบรวมรายการที่เข้าข่ายไม่ได้มาตรฐานแล้วกว่า 98,756 รายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบคัดกรองสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างชัดเจน
.
นายพงศ์พล กล่าวต่อว่า จากข้อมูลและการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สินค้าไม่มี มอก. และถูกฝ่าฝืนมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1.กลุ่มพลาสติกสัมผัสอาหาร 2.กลุ่มของเล่นเด็ก 3.กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้า 3 กลุ่มนี้ล้วนเป็นสินค้าที่ต้องมี มอก. บังคับใช้ตามกฎหมายอย่างชัดเจน เพื่อรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของทุกคน ตอกย้ำความจำเป็นของระบบ “มอก.วอทช์” ในการเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
.
ถึงแม้จะไม่มีงบประมาณสนับสนุนสำหรับระบบ “มอก.วอทช์” แต่ต้องขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ที่ตรวจจับสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม นำโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ทุกคนที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และได้ร่วมกันผลักดันการทำงานอย่างไม่ย่อท้อ
.
“ขณะนี้ระบบ มอก.วอทช์ กำลังเก็บรวบรวม URL ของผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนขายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โปรดติดตามผลการดำเนินงานเร็ว ๆ นี้” นายพงศ์พล กล่าวทิ้งท้าย
.
นายพงศ์พล ได้อ้างอิงรายงานสถานการณ์การทะลักเข้าของสินค้าข้ามชาติของสภาอุตสาหกรรมที่ระบุว่า สถานการณ์การทะลักเข้าไทยของสินค้าข้ามชาติมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่วนมากเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ ทั้งยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประกอบการและผู้ผลิตไทย ทั้งในเรื่องของการแข่งขันด้านราคา การละเมิดลิขสิทธิ์ และการลักลอบนำเข้ามาสวมสิทธิ์ในการส่งออก ซึ่งปัจจุบันได้เกิดปัญหานี้ขึ้นในสินค้าทุกชนิด จนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างรุนแรง
.
นายพงศ์พล กล่าวต่อว่า นายเอกนัฏ เล็งเห็นถึงความปลอดภัยของพ่อแม่พี่น้องคนไทยเป็นสำคัญ และด้วยข้อจำกัดของจำนวนเจ้าหน้าที่ นายเอกนัฏ จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อปฏิรูปอุตสาหกรรม(INDX) ที่นำโดยตนเข้าดำเนินการปราบปรามและป้องกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
โดยคณะกรรมการ INDX ได้พิสูจน์ผลงานมาแล้วจากความสำเร็จของระบบ “แจ้งอุต” ช่องทางออนไลน์ ร้องเรียนภาคอุตสาหกรรมเพื่อประชาชนได้รับความนิยมอย่างสูงสุด และตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาคณะกรรมการINDX เดินหน้าพัฒนาระบบที่ป้องกันผู้บริโภคจากสินค้าไม่ได้มาตรฐานที่เรียกว่า “มอก.วอทช์” ซึ่งได้ใช้กลไกในการพัฒนาเวอร์ชันแรกในการตรวจจับสินค้าที่ไม่ได้ มอก. โดยใช้ “บอทอัตโนมัติ” แทนมนุษย์ ในการเข้าไปตรวจสอบข้อมูลสินค้าบนหน้าเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ ที่ใช้เทคโนโลยี Ai จับ Keyword หรือ รูปภาพ เปรียบเทียบข้อมูลในระบบของ มอก. พร้อมรวบรวมลิ้งก์ที่ผิด พรบ. มอก. ซึ่งในระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา Ai “มอก.ว็อทช์” ได้ตรวจจับและรวบรวมรายการที่เข้าข่ายไม่ได้มาตรฐานแล้วกว่า 98,756 รายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบคัดกรองสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างชัดเจน
.
นายพงศ์พล กล่าวต่อว่า จากข้อมูลและการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สินค้าไม่มี มอก. และถูกฝ่าฝืนมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1.กลุ่มพลาสติกสัมผัสอาหาร 2.กลุ่มของเล่นเด็ก 3.กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้า 3 กลุ่มนี้ล้วนเป็นสินค้าที่ต้องมี มอก. บังคับใช้ตามกฎหมายอย่างชัดเจน เพื่อรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของทุกคน ตอกย้ำความจำเป็นของระบบ “มอก.วอทช์” ในการเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
.
ถึงแม้จะไม่มีงบประมาณสนับสนุนสำหรับระบบ “มอก.วอทช์” แต่ต้องขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ที่ตรวจจับสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม นำโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ทุกคนที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และได้ร่วมกันผลักดันการทำงานอย่างไม่ย่อท้อ
.
“ขณะนี้ระบบ มอก.วอทช์ กำลังเก็บรวบรวม URL ของผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนขายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โปรดติดตามผลการดำเนินงานเร็ว ๆ นี้” นายพงศ์พล กล่าวทิ้งท้าย

