วันที่ 1 มิถุนายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบโรงงานเหล็กที่ใช้กระบวนการเตาหลอม IF(Induction Furnace) ทั้ง 11 โรงงาน ซึ่งเป็นการขยายผลจากกรณีการพบวัตถุอันตราย “ฝุ่นแดง” ของ บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ที่มีการส่งวัตถุดังกล่าวให้กับ บริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด จังหวัดระยอง ที่ประกอบกิจการรับกำจัดกากของเสียจากกระบวนการผลิต ซึ่งถูกสั่งปิดโรงงานและปิดระบบการรับกากอุตสาหกรรมเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา พร้อมถูกดำเนินคดีใช้เอกสารกำกับการขนส่งของเสียอันตราย(Manifest) ปลอม และกรอกข้อมูลเท็จในระบบแจ้งรับกากอุตสาหกรรม รวมทั้งไม่มีศักยภาพในการจัดการฝุ่นแดง ซึ่งเป็นฝุ่นที่เกิดจากกระบวนการหลอมเหล็กในเตาหลอมแบบเหนี่ยวนำไฟฟ้า(IF Induction Furnace ) ที่ถือเป็นของเสียที่มีองค์ประกอบหรือสารปนเปื้อน เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย และจากการสืบสวนพบว่าโรงงานเหล็ก IF เกือบทุกโรงงานในประเทศส่งฝุ่นแดง ให้กับ บริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด ดังกล่าว
.
“จากการเข้าตรวจสอบ 11 โรงงานเหล็ก IF ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นอกจากจะติดตามปราบปรามขบวนการผลิตและขายเหล็กไม่ได้มาตรฐานแล้ว ยังรวมถึงขบวนการฟอกฝุ่นแดง ซึ่งพบว่า เมื่อโรงงานเหล็กส่งฝุ่นแดงไปที่ บริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ แล้วก็ไม่ได้นำไปกำจัด หรือบำบัดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม แต่กลับนำฝุ่นแดงไปคลุกสารเคมีและส่งต่อไปให้บริษัทในเครือเพื่อแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกต่างประเทศ” นายเอกนัฏ กล่าว
.
ด้านนางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยผลการตรวจสอบ บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ตำบลพนานิคม อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง โดยบริษัทจดแจ้งการประกอบกิจการโรงงาน ผลิต จำหน่าย นำเข้าและส่งออก สังกะสีออกไซด์ ขณะเข้าตรวจสอบมีการประกอบกิจการตามปกติ พบ นายพาน หงโจว รับเป็นเจ้าของกิจการ ให้การเบื้องต้นว่ามีการรับฝุ่นแดงจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผลิตโดยหลอมสังกะสี และเศษชิ้นส่วนโลหะภายในโรงงาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบว่า โรงงานติดตั้งเครื่องจักรผลิตสังกะสีออกไซด์เพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
.
นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเพิ่มเติม นายพาน ให้การยอมรับว่าเป็นเจ้าของกิจการบริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด รวมถึงบริษัท เซียวเซียง นัน-เฟอรัส เมทัล จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี โดยจะใช้บริษัท เอฟเอ็มอาร์ จำกัด เป็นผู้รับฝุ่นแดง ส่งต่อให้ บริษัท เซียวเซียง นัน-เฟอรัส เมทัล จำกัด เพื่อนำไปผ่านกระบวนการทำเป็นผลิตภัณฑ์สังกะสีแท่ง หรือซิงค์อินกอต (Zinc ingot) โดยจะจำหน่ายบางส่วน ที่เหลือส่งต่อให้ บริษัท เซียว เซียง เคมีคอลฯ เพื่อมาทำเป็นผงสังกะสีส่งขายทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินธุรกิจมีลักษณะฟอกฝุ่นตั้งแต่ขั้นตอนนำฝุ่นแดงจากของเสียที่เป็นกากอุตสาหกรรมมาแปลงสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ส่งขายต่างประเทศ หรือขายให้กับเครือข่าย
.
ทั้งนี้ในส่วนของ นายพาน และบริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด ได้ถูก กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะที่ บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด ถูกเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ดำเนินคดีฐานขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานนำเข้าของเสียที่เป็นวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมมีคำสั่งให้ระงับการใช้เครื่องจักร และการประกอบกิจการในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาต
.
“ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่า เราได้พบตัวการสำคัญแห่งวงการฟอกฝุ่นแดง ที่จงใจดำเนินกิจการอย่างไม่โปร่งใส เปิดบริษัทเป็นเครือข่ายขบวนการรองรับกันอย่างตั้งใจ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการปิดเกมขบวนการฝุ่นแดง ตัดต้นตอการจัดหา และสร้างตลาดส่งออก หวังว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการทุก ๆ กิจการ คำนึงถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย
.
“จากการเข้าตรวจสอบ 11 โรงงานเหล็ก IF ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นอกจากจะติดตามปราบปรามขบวนการผลิตและขายเหล็กไม่ได้มาตรฐานแล้ว ยังรวมถึงขบวนการฟอกฝุ่นแดง ซึ่งพบว่า เมื่อโรงงานเหล็กส่งฝุ่นแดงไปที่ บริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ แล้วก็ไม่ได้นำไปกำจัด หรือบำบัดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม แต่กลับนำฝุ่นแดงไปคลุกสารเคมีและส่งต่อไปให้บริษัทในเครือเพื่อแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกต่างประเทศ” นายเอกนัฏ กล่าว
.
ด้านนางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยผลการตรวจสอบ บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ตำบลพนานิคม อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง โดยบริษัทจดแจ้งการประกอบกิจการโรงงาน ผลิต จำหน่าย นำเข้าและส่งออก สังกะสีออกไซด์ ขณะเข้าตรวจสอบมีการประกอบกิจการตามปกติ พบ นายพาน หงโจว รับเป็นเจ้าของกิจการ ให้การเบื้องต้นว่ามีการรับฝุ่นแดงจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผลิตโดยหลอมสังกะสี และเศษชิ้นส่วนโลหะภายในโรงงาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบว่า โรงงานติดตั้งเครื่องจักรผลิตสังกะสีออกไซด์เพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
.
นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเพิ่มเติม นายพาน ให้การยอมรับว่าเป็นเจ้าของกิจการบริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด รวมถึงบริษัท เซียวเซียง นัน-เฟอรัส เมทัล จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี โดยจะใช้บริษัท เอฟเอ็มอาร์ จำกัด เป็นผู้รับฝุ่นแดง ส่งต่อให้ บริษัท เซียวเซียง นัน-เฟอรัส เมทัล จำกัด เพื่อนำไปผ่านกระบวนการทำเป็นผลิตภัณฑ์สังกะสีแท่ง หรือซิงค์อินกอต (Zinc ingot) โดยจะจำหน่ายบางส่วน ที่เหลือส่งต่อให้ บริษัท เซียว เซียง เคมีคอลฯ เพื่อมาทำเป็นผงสังกะสีส่งขายทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินธุรกิจมีลักษณะฟอกฝุ่นตั้งแต่ขั้นตอนนำฝุ่นแดงจากของเสียที่เป็นกากอุตสาหกรรมมาแปลงสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ส่งขายต่างประเทศ หรือขายให้กับเครือข่าย
.
ทั้งนี้ในส่วนของ นายพาน และบริษัท เอ็นเอฟเอ็มอาร์ จำกัด ได้ถูก กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะที่ บริษัท เซียว เชียง เคมีคอล อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด ถูกเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ดำเนินคดีฐานขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานนำเข้าของเสียที่เป็นวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมมีคำสั่งให้ระงับการใช้เครื่องจักร และการประกอบกิจการในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาต
.
“ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่า เราได้พบตัวการสำคัญแห่งวงการฟอกฝุ่นแดง ที่จงใจดำเนินกิจการอย่างไม่โปร่งใส เปิดบริษัทเป็นเครือข่ายขบวนการรองรับกันอย่างตั้งใจ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการปิดเกมขบวนการฝุ่นแดง ตัดต้นตอการจัดหา และสร้างตลาดส่งออก หวังว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการทุก ๆ กิจการ คำนึงถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย
