Skip to content
Home » หยุดใช้แค่เงินแก้ปัญหา ‘เอกนัฎ’ ใช้ใบอ้อยสร้างมูลค่า ทำอ้อยเผาต่ำสุดในประวัติศาสตร์

หยุดใช้แค่เงินแก้ปัญหา ‘เอกนัฎ’ ใช้ใบอ้อยสร้างมูลค่า ทำอ้อยเผาต่ำสุดในประวัติศาสตร์

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ชี้แจงในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า
.
สำหรับกรณีเงินช่วยเหลืออ้อยสด 120 บาท ในลำดับแรกต้องเรียนว่าพืชเศรษฐกิจจำนวนมากนั้นไม่ได้อยู่ในการดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม มีเพียงอ้อยเท่านั้นที่กระทรวงอุตสาหกรรมดูแล เป็นไปตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมกำกับดูแลทั้งห่วงโซ่อุปทาน คือทั้งเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย และโรงงานน้ำตาล
.
สำหรับมาตรการ 120 บาทนั้นเป็นมาตรการชั่วคราว มีการประกาศให้ใช้ 3 ปีจากรัฐบาลก่อนหน้า โดยเป็นการจ่ายเงินอุดหนุนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยตันละ 120 บาทเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ตัดอ้อยสดแทนที่จะเผาอ้อยเช่นที่เคยเป็นมา
.
เมื่อพิจารณาข้อมูลสถิติของอ้อยเผาจากก่อนที่จะมีการใช้มาตรการอุดหนุนประเทศไทยมีอ้อยเผาประมาณร้อยละ 50-60 ของปริมาณอ้อยทั้งหมด และเมื่อมีมาตรการช่วยเหลือ 120 บาทต่อตันอ้อย ปริมาณอ้อยเผาลดลงเหลือประมาณร้อยละ 30 ของปริมาณอ้อยทั้งหมด แต่จำนวนเท่านี้ยังไม่เพียงพอ และแสดงว่าการอุดหนุนที่ทำมาไม่สามารถลดปริมาณอ้อยเผาให้น้อยลงไปกว่าร้อนยละ 30 ได้
.
ดังนั้นการแก้ปัญหาการเผาอ้อยจะต้องแสวงหาวิธีการใหม่ แทนที่จะเป็นการใช้เงินแบบนี้ต่อไป ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในฤดูกาลเปิดหีบอ้อยรอบล่าสุดที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ใช้หลากหลายมาตรการ เช่นการประกาศมาตรการก่อนการเปิดหีบ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งมีหลายโรงงานน้ำตาลถูกสั่งปิดโรงงานเนื่องจากรับอ้อยเผามากกว่าปริมาณที่มีการพูดคุยหารือกันไว้
.
กระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้ทำแค่การบุกจับ บุกปราบโรงงานอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญเท่านั้น แต่ในเรื่องของอ้อยเผาที่เป็นประเด็นทางสิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งที่เกิดจากอ้อยเผา โดยเฉพาะ PM2.5 ก็เข้าไปสู่ปอด และทำร้ายชีวิตและสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทย ดังนั้นในปีที่ผ่านมาเราจึงเข้มงวด และมีมาตรการที่หลากหลายไม่ใช่แค่ 120 บาทต่อตันเท่านั้น แต่ยังมีการอุดหนุนเพื่อให้มีการรวบรวมใบนำส่งโรงไฟฟ้าชีวมวล หรือการสนับสนุนอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือในการตัดใบอ้อย ตัดอ้อยให้สะดวกขึ้น และในขณะนี้ตนได้กำลังหารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อให้มีการรับซื้อใบอ้อยไปผลิตไฟฟ้าและนำมูลค่าที่เกิดขึ้นจากการผลิตไฟฟ้ากลับมาชดเชยเป็นแรงจูงใจให้กับเกษตรกร
.
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นมาตรการใหม่ ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาเราทำง่าย ๆ คือใครตัดอ้อยสดมาจ่ายไป 120 บาทต่อตัน แต่วิธีเดิมไม่สามารถทำให้อ้อยเผาลดลงต่ำกว่าร้อยละ 30 ได้ แต่ด้วยวิธีการแก้ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาที่ไม่ได้พึ่งแต่การใช้เงินเท่านั้น และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทยไม่ใช่แค่การลดลงของ PM2.5 เท่านั้นแต่เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยมูลค่าไม่ใช่เงินให้เปล่า
.
วิธีการใหม่ ๆ ที่ทำมาทำให้อ้อยเผาลดลงจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 14 เท่านั้น คิดเป็นสามารถลดอ้อยเผาได้มากกว่า 10 ล้านตัน หากคิดเป็นพื้นที่คือการลดพื้นที่เผาประมาณ 1.5-1.6 ล้านไร่ ทุกท่านไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขออนุมัติงบประมาณเนื่องจากหลายวิธีการยังใหม่จึงต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา
.
ความสำเร็จในเรื่องของการลดอ้อยเผาไม่ใช่แค่ผลงานของกระทรวงอุตสาหกรรม แต่เป็นการร่วมมือกันทำงานระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม โรงงานน้ำตาล และเกษตรกรชาวไร่อ้อย
.
นอกจากที่กล่าวมาในอนาคตที่มีการพยายามเรียกร้องให้เพิ่มราคาน้ำตาล ซึ่งอาจจะเกิดภาระกับผู้บริโภค สิ่งที่ควรทำคือการผลักดันน้ำตาลคุณภาพพิเศษให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก ที่มีความยั่งยืนเป็นเกณฑ์สำคัญ ซึ่งหากเรามีน้ำตาลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควรจะมีราคาที่พิเศษสำหรับน้ำตาลประเภทนี้หรือไม่ และไม่ใช่การแก้ปัญหาผ่านการเอาเงินไปให้เปล่าเท่านั้น
.
นอกจากอ้อยเผาในปีนี้ที่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว ในปีนี้การขอเสนอการอุดหนุนงบประมาณจากคณะรัฐมนตรียังน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า