วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นายจุติ ไกรฤกษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายในการประชุมสภาเกี่ยวกับพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 โดยตั้งข้อสงสัยว่า ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือทางออนไลน์ ขาดแคลนมากถึง 8,000 อัตรา แต่กลับไม่มีการเร่งบรรจุมาแก้ไขปัญหาด้านภัยออนไลน์ ทั้งที่หากมีการบรรจุกำลังดังกล่าวได้ก็จะสามารถป้องกันความเสียหายได้มหาศาล ทั้งยังสามารถช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้หลายแสนคน
.
นายจุติ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญอีกประการในการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ คือ การเสนอให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงินควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สามารถอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ของกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้ได้ พร้อมกันนี้ขอให้รัฐบาลเร่งปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกโดยเร็ว หลังก่อนหน้านี้ได้เร่งปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมดังกล่าวที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือมาแล้ว พร้อมย้ำว่า ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ รวมถึงปัญหาข้อมูลที่รั่วไหลออกจากระบบออนไลน์และสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอีกปัญหาสำคัญที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่งผลสะเทือนมาถึงระบบเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย ตนจึงย้ำว่าปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนเช่นเดียวกับปัญหาหลักธรรมาภิบาลและหลักนิติธรรมของหน่วยงานรัฐ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมายังพบเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบนและทุจริตอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งในเรื่องนี้ตนเสนอให้นำระบบปัญญาประดิษฐ์(AI) เข้ามาช่วยสอดส่องและตรวจจับ โดยต้องดำเนินการจัดการอย่างเด็ดขาด
.
นายจุติ กล่าวย้ำว่า นอกจากการเร่งปราบปรามปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่คนไทยต้องการเห็นในขณะนี้ คือ การจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ พร้อมกันนี้ตนเสนอว่าเพื่อให้การปราบปรามทำได้อย่างจริงจัง จะต้องมีการเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดและสถาบันทางการเงินให้หนักขึ้นด้วย ซึ่งตนพร้อมที่จะสนับสนุนทุกมาตรการในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนทุกคนปลอดภัย
.
นายจุติ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญอีกประการในการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ คือ การเสนอให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงินควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สามารถอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ของกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้ได้ พร้อมกันนี้ขอให้รัฐบาลเร่งปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกโดยเร็ว หลังก่อนหน้านี้ได้เร่งปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมดังกล่าวที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือมาแล้ว พร้อมย้ำว่า ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ รวมถึงปัญหาข้อมูลที่รั่วไหลออกจากระบบออนไลน์และสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอีกปัญหาสำคัญที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่งผลสะเทือนมาถึงระบบเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย ตนจึงย้ำว่าปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนเช่นเดียวกับปัญหาหลักธรรมาภิบาลและหลักนิติธรรมของหน่วยงานรัฐ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมายังพบเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบนและทุจริตอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งในเรื่องนี้ตนเสนอให้นำระบบปัญญาประดิษฐ์(AI) เข้ามาช่วยสอดส่องและตรวจจับ โดยต้องดำเนินการจัดการอย่างเด็ดขาด
.
นายจุติ กล่าวย้ำว่า นอกจากการเร่งปราบปรามปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่คนไทยต้องการเห็นในขณะนี้ คือ การจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ พร้อมกันนี้ตนเสนอว่าเพื่อให้การปราบปรามทำได้อย่างจริงจัง จะต้องมีการเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดและสถาบันทางการเงินให้หนักขึ้นด้วย ซึ่งตนพร้อมที่จะสนับสนุนทุกมาตรการในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนทุกคนปลอดภัย
