Skip to content
Home » 2568 ปีแห่งการลดค่าไฟ ‘ศศิกานต์’ เผย ‘พีระพันธุ์’ เดินหน้าลดต้นทุนพลังงาน ช่วยคนไทยมีเงินเหลือใช้-ธุรกิจแข่งขันได้มากขึ้น

2568 ปีแห่งการลดค่าไฟ ‘ศศิกานต์’ เผย ‘พีระพันธุ์’ เดินหน้าลดต้นทุนพลังงาน ช่วยคนไทยมีเงินเหลือใช้-ธุรกิจแข่งขันได้มากขึ้น

วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยไทม์ไลน์ “การลดค่าไฟฟ้า” ตั้งแต่ปี2567-ปัจจุบัน ซึ่งมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้ผลักดันนโยบายหลัก เพื่อหวังลดภาระค่าใช้จ่ายของทุกคนในประเทศ โดยไทม์ไลน์การลดค่าไฟฟ้าจำแนกตามรายละเอียดได้ดังนี้
.
เปิด ไทม์ไลน์ ราคาค่าไฟ : ใคร? ทำอะไร? ยังไงบ้าง?
.
ปี 2567
นายพีระพันธุ์ สามารถตรึงค่าไฟฟ้าไว้ได้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ตลอดทั้งปี
.
ต้นเดือน พฤศจิกายน 2567
นายพีระพันธุ์ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้า งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2568 ให้เหลืออย่างน้อย 4.15 บาทต่อหน่วย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
.
กลางเดือน พฤศจิกายน 2567
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาสังคม สำหรับค่าไฟฟ้า งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2568 โดยมีแนวทางสามกรณี คือ กรณีที่หนึ่ง ค่าไฟปรับขึ้นเป็น 5.49 บาทต่อหน่วย กรณีที่สอง ปรับขึ้นเป็น 5.26 บาทต่อหน่วย และกรณีที่สาม ค่าไฟอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย
.
27 พฤศจิกายน 2567
กกพ. มีมติเลือกค่าไฟฟ้าในกรณีที่สามคือหน่วยละ 4.18 บาท นายพีระพันธุ์ จึงเจรจากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และ กกพ. ก่อนที่สุดท้ายแล้ว กกพ. จะมีมติปรับลดค่าไฟฟ้างวดเดือนมกราคม-เมษายน 2568 จากอัตรา 4.18 บาทต่อหน่วย เหลือ 4.15 บาทต่อหน่วย
.
ปลายเดือน มีนาคม 2568
หลังศึกษาตัวเลขทางการเงินและการผลิตไฟฟ้าแล้ว นายพีระพันธุ์ ได้ประกาศจะปรับลดอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ลงอีก โดยกำหนดกรอบเป้าหมายไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย
.
1 เมษายน 2568
นายพีระพันธุ์ เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้พิจารณารับทราบราคาเป้าหมายค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ในอัตราไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย
.
1 เมษายน 2568
กกพ. มีมติกำหนดค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย
.
10 เมษายน 2568
นายพีระพันธุ์ ได้หารือกับผู้ว่า กฟผ. ถึงแนวทางในการปรับลดค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ก่อนจะได้ข้อยุติว่าจะเป็นไปตามกรอบราคาเป้าหมายที่นายพีระพันธุ์ เสนอต่อ ครม. คือ ค่าไฟจะต้องไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย โดยให้นำเงิน 8,949 ล้านบาท ที่ กฟผ. กันไว้เพื่อส่งให้ กกพ. มาเป็นเงินชดเชยส่วนต่างค่าไฟฟ้าที่หายไปแทน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชน
.
18 เมษายน 2568
กฟผ. ทำหนังสือถึง กกพ. ขอให้ปรับลดค่าไฟฟ้าตามมติ กกพ. ในวันที่ 1 เม.ย. 68 จาก 4.15 บาทต่อหน่วย ลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่นายพีระพันธุ์ ได้ทำข้อสรุปให้ไว้เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568
.
23 เมษายน 2568
กกพ. ประชุมหารือแล้วมีมติให้ กฟผ. ดำเนินการตามกฎหมายการประกอบกิจการพลังงาน และแจ้ง กฟผ. ว่าจะต้องเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ให้พิจารณาเห็นชอบ เพราะ กกพ. มีมติไปแล้ว
.
24 เมษายน 2568
กฟผ. แจ้งมติและความเห็นของ กกพ. ให้พีระพันธุ์ทราบ
.
28 เมษายน 2568
กฟผ. มีหนังสือเสนอแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้าตามมติ ครม. ถึงนายพีระพันธุ์ เพื่อบรรจุเข้าที่ประชุม กพช. พิจารณากำหนดเป็นนโยบายให้ กกพ. ปฏิบัติในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568

29 เมษายน 2568
กฟผ. แจ้งว่า ได้รับแจ้งจาก กกพ. ว่า จะนำเรื่องปรับลดค่าไฟฟ้าลงเหลือไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย เข้าที่ประชุม กกพ. อีกครั้งในวันที่ 30 เมษายน 2568
.
30 เมษายน 2568
กกพ. มีมติปรับลดค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ตามที่ กฟผ. เสนอให้ปรับลดลงจากเดิม 4.15 บาทต่อหน่วย เป็นเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย
.
6 พฤษภาคม 2568
นายพีระพันธุ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมกพช. ได้เห็นชอบอัตราค่าไฟฟ้า สำหรับงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568 ให้เหลือไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย โดยจะไม่ใช้งบประมาณแผ่นดินมาอุดหนุน
.
14 พฤษภาคม 2568
นายพีระพันธุ์ ได้เดินทางเยือนประเทศลาว เพื่อประชุมเกี่ยวกับแนวทางและความเป็นไปได้ในการที่ประเทศไทยจะรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาวโดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางอีกต่อไป อันจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้อีกมาก
.
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า ไทม์ไลน์ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของนายพีระพันธุ์ ที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเชิงรุก ผ่านการดำเนินการทั้งเชิงนโยบายและปฏิบัติการจริง เข้าเจรจาโดยตรงกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหวังลดภาระค่าไฟฟ้า ค่าครองชีพให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนและเพื่อให้ผลประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับประเทศชาติและทุกคนในประเทศอย่างแท้จริง
.
ทั้งนี้ขอย้ำว่าค่าไฟที่ลดลงไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขในบิลค่าไฟ แต่คือโอกาสใหม่ที่ส่งตรงถึงมือประชาชน เพราะเมื่อค่าไฟลดลง พ่อแม่พี่น้องก็สามารถนำเงินไปซื้อของใช้ที่จำเป็นได้มากขึ้น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง หรือสามารถเก็บออมเงินไว้ใช้ในยามจำเป็นฉุกเฉินได้มากขึ้น
.
ส่วนในภาคธุรกิจ การลดค่าไฟ คือ การลดต้นทุนโดยตรง เงินที่ประหยัดได้ก็สามารถนำไปเพิ่มสวัสดิการพนักงาน ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ปรับปรุงระบบร้านค้า ขยายบริการ หรือทำการตลาดได้มากขึ้น ซึ่งล้วนช่วยเพิ่ม “ความสามารถในการแข่งขัน” และยังช่วยส่งต่อโอกาสให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นได้มากขึ้นอีกด้วย
.
“รัฐบาลลงมือปฏิรูปราคาพลังงานอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่องโดยยึดหลัก “มั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืน” เพื่อลดภาระค่าครองชีพของทุกครัวเรือน พร้อมสร้างเสถียรภาพของระบบพลังงานในระยะยาว” นางสาวศศิกานต์ กล่าวทิ้งท้าย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า