วันที่ 28 เมษายน 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต และไปร่วมงานครบรอบ 1 ปี โรงแรมอนันตรา เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ก่อนพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เข้ามาท่องเที่ยวจะเป็นโซนยุโรปจำนวนมาก ซึ่งอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศ ถ้าจะดีที่สุดควรจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาไทย มองว่า ตลาดเดิมที่สร้างรายได้หลักก็ต้องรักษาคุณภาพและปริมาณไว้ให้ได้และต้องมีการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศตลาดใหม่เข้ามาด้วย
.
ทั้งนี้แม้ว่าสถิตินักท่องเที่ยวโดยรวมไตรมาสแรก จะถึง 9.55 ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้น 2% แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตัวเลขจะปรับตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซัน และเมื่อมาดูสถิติพบว่าตลาดท่องเที่ยวที่เป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ ตลาดจีน ที่มีแนวโน้มชะลอตัวหนักต่อเนื่อง ล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนทำสถิติตกต่ำสุดมาอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 คนต่อวันเท่านั้น จากภาวะปกติที่มีอัตราเฉลี่ยประมาณ 14,000-17,000 คนต่อวัน และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือนเมษายนนี้จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมีนาคมที่มีจำนวน 2.9 แสนคน โดยพบว่า การสำรวจล่าสุดในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2568 ประเทศไทยติดอันดับ 7 เดสติเนชั่นยอดนิยมของคนจีน โดย 5 อันดับแรก คือ สิงคโปร์ ตามด้วยญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย และยุโรป ขณะที่ผลสำรวจในไตรมาส 4 ปี 2567 พบว่า ประเทศไทยติดอันดับ 4 ซึ่งเมื่อย้อนไปดูช่วงก่อนวิกฤตโควิด ประเทศไทยครองแชมป์ อันดับ 1 เดสติเนชั่นยอดนิยมของคนจีนมาโดยตลอด
.
“เมื่อดูตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนก็รู้สึกเป็นห่วงภาคท่องเที่ยวของไทยที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงเกือบ 50% นายกรัฐมนตรี รัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำเป็นจะต้องเร่งปรับแผนเพื่อแก้ปัญหา ทั้งเรื่องการเร่งสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยเมื่อมาเที่ยวไทย พร้อมกับผนึกกำลังความร่วมมือภาคธุรกิจการท่องเที่ยวจัดแคมเปญครั้งใหญ่เพื่อทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวนั้นเข้มแข็ง ตนเห็นด้วยกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA) ที่เสนอให้รัฐบาลเร่งให้โจทย์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) หน่วยงานด้านการทำตลาดเร่งปรับแผนและหาช่องทางสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดจีน และดึงนักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว” นายธนกร กล่าว
.
ทั้งนี้แม้ว่าสถิตินักท่องเที่ยวโดยรวมไตรมาสแรก จะถึง 9.55 ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้น 2% แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตัวเลขจะปรับตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซัน และเมื่อมาดูสถิติพบว่าตลาดท่องเที่ยวที่เป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ ตลาดจีน ที่มีแนวโน้มชะลอตัวหนักต่อเนื่อง ล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนทำสถิติตกต่ำสุดมาอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 คนต่อวันเท่านั้น จากภาวะปกติที่มีอัตราเฉลี่ยประมาณ 14,000-17,000 คนต่อวัน และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือนเมษายนนี้จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมีนาคมที่มีจำนวน 2.9 แสนคน โดยพบว่า การสำรวจล่าสุดในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2568 ประเทศไทยติดอันดับ 7 เดสติเนชั่นยอดนิยมของคนจีน โดย 5 อันดับแรก คือ สิงคโปร์ ตามด้วยญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย และยุโรป ขณะที่ผลสำรวจในไตรมาส 4 ปี 2567 พบว่า ประเทศไทยติดอันดับ 4 ซึ่งเมื่อย้อนไปดูช่วงก่อนวิกฤตโควิด ประเทศไทยครองแชมป์ อันดับ 1 เดสติเนชั่นยอดนิยมของคนจีนมาโดยตลอด
.
“เมื่อดูตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนก็รู้สึกเป็นห่วงภาคท่องเที่ยวของไทยที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงเกือบ 50% นายกรัฐมนตรี รัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำเป็นจะต้องเร่งปรับแผนเพื่อแก้ปัญหา ทั้งเรื่องการเร่งสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยเมื่อมาเที่ยวไทย พร้อมกับผนึกกำลังความร่วมมือภาคธุรกิจการท่องเที่ยวจัดแคมเปญครั้งใหญ่เพื่อทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวนั้นเข้มแข็ง ตนเห็นด้วยกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA) ที่เสนอให้รัฐบาลเร่งให้โจทย์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) หน่วยงานด้านการทำตลาดเร่งปรับแผนและหาช่องทางสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดจีน และดึงนักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว” นายธนกร กล่าว
