วันที่ 20 เมษายน 2568 นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบเหล็กเส้นตัวอย่างที่เก็บมาจากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่ถล่มลงมาว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการด้วย “ความโปร่งใส” ถูกต้องตามกระบวนการ พร้อมทั้งให้มีการเปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอนและสามารถตรวจสอบได้
.
นายพงศ์พล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งผลการทดสอบเหล็กเส้น sky จากตึก สตง. เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 โดยสถาบันเหล็กฯ ว่ามีผลเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ คือ มีเหล็ก 3 ชนิดที่ตกค่ามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) ได้แก่ 1. เหล็กข้ออ้อย 12 มิลลิเมตร ตกทดสอบความสูงของบั้ง (การยึดเกาะกับปูน) 2. เหล็กข้ออ้อย 20 มิลลิเมตร ตกทดสอบค่าเหล็กเบา (มวลต่อเมตร) 3. เหล็กข้ออ้อย 32 มิลลิเมตร ตกทดสอบค่าแรงดึง (การรับแรง)
.
และเมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม โดยทีมสุดซอย ได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และผู้แทนอิตาเลียนไทย เข้าเก็บตัวอย่างเหล็กเส้นเพิ่มเติมจากบริเวณตึก สตง. ถล่ม
.
ซึ่งการเก็บตัวอย่างเหล็กเส้นหลายจุด หลากหลายชนิดและขนาด จำเป็นต้องเลือกชุดตัวอย่างให้ครบ 5 เส้นต่อชั้นคุณภาพต่อขนาดและต่อยี่ห้อ เพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาการเรื่องการซักตัวอย่างและการตัดสิน โดยได้ตัวอย่างเหล็กเส้นเพิ่มจำนวน 8 ชนิด ชนิดละ 5 ท่อน รวมทั้งสิ้น 40 ท่อน และจะทำการตรวจสอบตาม มอก. ในวันที่ 21 เมษายนนี้ โดยสถาบันเหล็กฯ เพื่อให้ได้ข้อมูลในการดำเนินการเอาผิดต่อผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของการตรวจสอบหากพบเจ้าหน้าที่คนใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องได้รับโทษด้วย และยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น
.
ในวันที่ 21 เมษายนนี้ สถาบันเหล็กฯ จะทดสอบทุกรายการตามมาตรฐาน มอก. 24-2559 ดังนี้ 1.มวลต่อเมตร 2.ช่วงระหว่างบั้ง ส่วนสูงของบั้ง และความกว้างครีบ 3.ส่วนประกอบทางเคมี 4.ความต้านแรงดึง(Tensile) 5.ความต้านแรงดึงที่จุดคราก(Yield strength) 6.ความยืด(Elongation) และ 7.ความดัดโค้ง(Bending) 8.มุมระหว่างบั้งครีบแกนของเหล็ก 9.เครื่องหมายที่เหล็กข้ออ้อย
.
“ผลการตรวจสอบ หากผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ไม่ควรมีระบบสอบตก ขอครูสอบใหม่ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะผ่าน อันนั้นไม่ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญคือความปลอดภัยของประชาชน หากผู้ผลิตมีความผิด ก็ต้องรับโทษ-ยึดใบอนุญาต-ปิดโรงงาน ตามขั้นตอน เพราะสังคมคาดหวัง และจะไม่ให้ที่ยืนกับโรงงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอีกต่อไป” นายพงศ์พล กล่าวทิ้งท้าย
