Skip to content
Home » เดินหน้าอย่างรอบคอบฉับไว ‘อัครเดช’ เคลียร์ชัด 4 ประเด็น เดินหน้าอย่างรอบคอบลุย รง.เหล็ก ไม่ได้มาตรฐาน

เดินหน้าอย่างรอบคอบฉับไว ‘อัครเดช’ เคลียร์ชัด 4 ประเด็น เดินหน้าอย่างรอบคอบลุย รง.เหล็ก ไม่ได้มาตรฐาน

 

วันที่ 10 เมษายน 2568 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า
.
วานนี้ในการประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมได้มีการพิจารณาเรื่อง “ปัญหาการนำเหล็กก่อสร้างที่อาจไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมใช้เป็นวัสดุในการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน อันอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญหนึ่งให้เกิดการพังทลายของอาคารดังกล่าว”
.
โดยทางคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม, กรมโยธาธิการและผังเมือง, สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม, และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ

ทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้พิจารณาในเรื่องมาตรฐานของสินค้าที่ผลิตจากโรงงานเป็นหลัก โดยเฉพาะในกรณีนี้คือเหล็ก สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของการที่ตึกถล่มนั้นเกิดจากสาเหตุใด ต้องรอการสรุปผลจากกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่รัฐบาลตั้งอีกครั้งหนึ่ง
.
ประเด็นที่ 1 ทาง สมอ. ได้มีการเก็บตัวอย่างเหล็กเพื่อตรวจสอบ 9 รายการ ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่ามี 2 รายการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ สมอ. ได้แก่ ประเภท DB20 ไม่เป็นไปตามมาตรฐานมวลต่อเมตร และประเภท DB32 ตกคุณสมบัติทางกล ประเภทค่า yield
.
แต่อย่างไรก็ดีทาง กมธ.อุตสาหกรรมได้มีข้อกังวลถึงมาตรฐานของ สมอ. ที่ใช้สำหรับเหล็กก่อนการก่อสร้าง สำหรับข้อกังวลนี้ทางศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติได้ให้ข้อมูลว่าสำหรับการนำเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างแล้วมาทดสอบ ตามหลักการที่ก่อนอาคารจะถล่มนั้นเหล็กทุก ๆ เส้นได้มีการรับแรงดึงแล้ว เช่นเดียวกับคอนกรีตในอาคารที่ได้รับแรงอัด อาจจะทำให้ผลการทดสอบตามมาตรฐานของ สมอ. มีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากมาตรฐานของ สมอ. นั้นมาจากเหล็กใหม่ก่อนใช้งาน
.
ทาง กมธ.อุตสาหกรรม จึงได้ให้ข้อเสนอแนะว่าจะต้องตรวจสอบให้รอบคอบ และรัดกุม โดยมีหลักวิชาการเพื่อให้พิสูจน์ได้ว่าเหล็กดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานแม้จะเป็นเหล็กใช้แล้วก็ตามเพื่อให้สิ้นข้อสงสัยในกระบวนการยุติธรรม และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางรัฐบาลเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างถูกต้องรัดกุม เพื่อป้องกันคนผิดลอยนวลและเพื่อความยุติธรรม.
ประเด็นที่ 2 สำหรับการขออนุญาตก่อสร้างและการตรวจสอบมาตรฐานของวัสดุก่อสร้างนั้น ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ชี้แจงว่า สำหรับอาคารของราชการนั้นได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้าง เป็นการแจ้งเพื่อทราบแก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นผู้มีอำนาจออกใบอนุญาตการก่อสร้างเท่านั้น
.
แต่ถึงอย่างไรก่อนที่จะมีการใช้วัสดุในการก่อสร้างต้องมีการเก็บตัวอย่างของวัสดุการก่อสร้างทั้งเหล็กและคอนกรีตไปทดสอบมาตรฐานเสียก่อน ซึ่งทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้พิจารณาจะออกหนังสือเพื่อขอเอกสารการตรวจสอบดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเปรียบเทียบมาตรฐานการทดสอบกับเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างจริง เพื่อมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป
.
ประเด็นที่ 3 สำหรับข้อสงสัยของสังคมที่ว่าทาง สมอ. ได้มีการอนุญาตให้ปลดคำสั่งการอายัดเหล็ก และให้ทางโรงงานซิน เคอ หยวน กลับมาผลิตได้อีกครั้ง สำหรับประเด็นนี้ทาง สมอ. ชี้แจงว่า
.
ทาง สมอ. ได้มีการตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมเหล็กในช่วงเดียวกับที่ทางโรงงานเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 พบว่ามีการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานของ สมอ. 2 ประการ คือ
.
ประการที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามวิธีควบคุมคุณภาพอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามมาตรฐานหรือ QC ตามมาตรา 25 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
.
ประการที่ 2 ผลิตภัณฑ์เหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม 2 รายการ โดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางกล หรือทางเคมี จึงเป็นเหตุให้มีการอายัดเหล็กเส้นมากกว่า 40,000 เส้น ซึ่งทางโรงงานจะต้องดำเนินการแก้ไขตามข้อสั่งการของเจ้าหน้าที่ สมอ.ให้เรียบร้อยก่อนเดินเครื่องการผลิตเพื่อจำหน่ายและทดสอบผลิตภัณฑ์ให้ผ่านมาตรฐาน มอก.ก่อนที่จะได้มีการจัดจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันทางโรงงานไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เนื่องจากการสั่งปิดโรงงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ไม่สามารถทดสอบมาตรฐานดังกล่าวได้
.
จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าจะไม่มีผลิตภัณฑ์เหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน ในช่วงนี้ที่มีการกล่าวอ้างในสื่อโซเชียล
.
ประเด็นที่ 4 การเพิกถอนสิทธิประโยชน์ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้เคยให้ไว้ ในกรณีนี้ทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้มีการติดตามตั้งแต่เหตุการณ์เครนถล่มในโรงงานแห่งที่ 2 ของบริษัทเดียวกันเมื่อเดือนมีนาคม 2567
.
โดยทาง BOI ได้ให้ข้อมูลแก่ กมธ.อุตสาหกรรมว่า จะมีการถอนสิทธิประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อทางโรงงานมีการละเมิดกฎหมาย โดยต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งบันทึกการละเมิดกฎหมายมายัง BOI
.
สำหรับกรณีนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการส่งบันทึกถึงการละเมิดกฎหมายของโรงงานทั้งกรณีการสั่งปิดโรงงาน และการผลิตสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดังกล่าวแล้ว คาดว่าทาง BOI น่าจะสามารถดำเนินการเพิกถอนสิทธิประโยชน์ตามที่เคยได้ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการต่อไป
.
“สุดท้ายนี้ทางคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมขอชื่นชมการทำงานอย่างรวดเร็ว ตรงไปตรงมาเพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรม และพี่น้องประชาชนของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม” นายอัครเดชกล่าวในตอนท้าย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า