วันที่ 16 มกราคม 2568 นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชุมพร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เสนอญัตติด้วยวาจา เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาปัญหาสารตกค้างในทุเรียนเพื่อการส่งออกทุเรียนในช่วงฤดูกาลผลิต
.
โดยนายวิชัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญในเรื่องของทุเรียนกับประเทศไทย ได้ออกมาตรการอย่างเร่งด่วน เรื่องความปลอดภัยทางอาหาร เนื่องจากมีการตรวจพบว่าทุเรียนซึ่งนำเข้าจากประเทศไทยมีสารย้อมสีประเภทหนึ่ง ซึ่งกรมอนามัยโลกแจ้งว่าเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็ง
.
ทำให้หลังวันที่ 10 มกราคม 2568 ทุเรียนที่ส่งออกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนจะต้องมีรายงานจากห้องแล็บของประเทศไทยว่าทุเรียนที่ส่งออกไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมีดังกล่าว ซึ่งทางไทยเราก็ต้องยอมรับตามหลักเกณฑ์ที่ทางจีนได้กำหนดออกมา
.
ปัญหานี้สำคัญมาก เนื่องจากทำให้ราคาทุเรียนจากกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 200 บาท ลดฮวบลงเหลือประมาณ 100 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากทุเรียนที่อยู่ระหว่างการขนส่งปังประเทศจีนถูกตีกลับหมดทันที เพราะไม่มีใบรับรองจากแล็บตามข้อกำหนด
.
อย่างไรก็ตามภาครัฐของไทย จำเป็นจะต้องมีการตื่นตัวในการปฏิบัติหน้าที่มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยภาครัฐจะต้องบูรณาการในการแก้ปัญหานี้ร่วมกัน
.
ในระยะเร่งด่วนประเทศไทยจะต้องมีห้องแล็บให้เพียงพอต่อการทดสอบรองรับการส่งออกในระลอกที่จะถึงนี้ และในระยะต่อไป นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการหาที่มาของสารปนเปื้อนและระงับการใช้ ในเบื้องต้นต้องหาพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนและประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดงเพื่อปกป้องทั้งผู้ค้าและเกษตรกร รวมถึงการใช้การทูตเจรจาขอระยะผ่อนปรนการคัดกรองทุเรียน
.
“เรื่องนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นสักวันหนึ่งทุเรียนจะไปกองอยู่ที่หน้าศาลากลาง กองอยู่ถนนเพชรเกษม เหมือนกับพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ ที่เคยประสบปัญหาราคาตกต่ำมาแล้ว” นายวิชัยกล่าว
