โรงงานผิดกฎหมายต้องหยุด
‘เอกนัฏ’ เผยยกร่างกฎหมายติดอาวุธให้กระทรวงอุตสาหกรรมลงดาบโรงงานไร้ความรับผิดชอบ
.
วันที่ 12 ธันวาคม 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ตอบกระทู้ถามในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงการจัดการกากอุตสาหกรรมในโรงงาน วิน โพเสส จังหวัดระยอง ว่า
.
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกวันนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส น่าจะมีโอกาสในการฟื้นฟูและขยายตัวภาคอุตสาหกรรม ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน
.
ปัญหากากอุตสาหกรรมเป็นปัญหาที่ตนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ภารกิจแรกของตนหลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมคือการลงพื้นที่ไปยัง บริษัท วิน โพเสส จำกัด อำเภอ บ้านค่าย จังหวัดระยอง เพื่อสำรวจพื้นที่ด้วยตนเอง
.
ในเบื้องต้นกรณีวิน โพเสสนั้น ศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อปี 2564 ให้จำคุกผู้ที่เกี่ยวข้องและสั่งให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหากากอุตสาหกรรม และเมื่อปี 2567 นี้เองทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้แถลงต่อศาลว่าจะขอจัดการปัญหากากอุตสาหกรรมด้วยตนเอง
.
แต่อย่างไรก็ดียังมีข้อจำกัดด้วยงบประมาณสำหรับการจัดการกากของเสียนั้นด้วยเงินประกันที่วางไว้ประมาณ 12 ล้านบาท และได้มีการใช้เพื่อบรรเทาปัญหาไปบางส่วน เหลืองบประมาณสำหรับการจัดการปัญหาเพียง 4.9 ล้านบาทเท่านั้น
.
ทำให้ตนตัดสินใจในวันแรกว่าจะต้องลงพื้นที่เพื่อหาคำตอบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะต้องจัดการอย่างไรบ้าง และจะจัดลำดับในการจัดการปัญหาอย่างไร เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนนำพื้นที่ใกล้เคียง
.
จากการลงพื้นที่พบว่าในพื้นที่บริษัท วิน โพเสส จำกัด มีกากของเสียทั้งหมดรวม 33,800 ตัน งบประมาณสำหรับการจัดการความเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ 493 ล้านบาท
.
ซึ่งส่วนนี้ไม่มีการตั้งงบประมาณไว้ และหากใช้วิธีงบประมาณตามปกติกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะสามารถตั้งงบประมาณได้ในปีงบประมาณ 2569 ซึ่งได้มีการตั้งงบประมาณส่วนนี้ไว้แล้ว
.
แต่อย่างไรก็ดีความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ เพราะประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนอย่างมากจากกลิ่นของกรด รวมถึงตะกรันอะลูมิเนียมในพื้นที่ซึ่งหากกระทบกับน้ำฝนแล้วจะมีทั้งกลิ่นและไอกรดซึ่งจะส่งผลกระทบกับประชาชน
.
สิ่งแรกที่ได้มีการดำเนินการคือการผันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเสียในพื้นที่เล็ดลอดมาสู่พื้นที่ภายนอกที่อาจจะเกิดปัญหากับพี่น้องประชาชนได้ รวมถึงลำดับถัดมาคือการขนย้ายอะลูมิเนียมดรอสออกจากพื้นที่ ซึ่งต้องดำเนินการภายใต้ข้อจำกัด 2 เรื่อง คืองบประมาณที่มีอย่างจำกัด คือ 4.9 ล้านบาท และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ดำเนินการโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม
.
ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการประกาศผู้ชนะในการดำเนินการขนย้ายกากอะลูมิเนียมดรอสออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ในวงเงิน 4 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดในการดำเนินการอย่างเดียวกันประมาณ 70 ล้านบาท ในการจัดการอะลูมิเนียมดรอส 7,000 ตัน แต่ทางผู้รับจ้างสามารถนำอะลูมิเนียมดรอสไปกำจัดและใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้ เบื้องต้นคาดว่าไม่เกิดเดือนมกราคมปีหน้าจะมีการลงนามในสัญญา หากไม่มีข้อติดขัดประการใด
.
สำหรับส่วนที่เหลือหลังจากจัดการอะลูมิเนียมดรอส 7,000 ตันเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีการจัดการหากรองบประมาณรายจ่ายประจำปีคงไม่ทันการณ์โดยเฉพาะการจัดการกรดในพื้นที่ ดังนั้นจึงได้มีการดำเนินการขอจัดสรรงบกลาง 40 ล้านบาทเพื่อจัดการกับกรดในพื้นที่
.
และหากมีปัญหาอื่น ๆ แทรกเข้ามาโดยจำเป็นเร่งด่วน จะมีการขอจัดสรรงบกลางเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นระยะ ๆ ก่อนที่งบประมาณรายจ่ายประจำปีจะมาถึง เพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบกับทรัพย์สิน และชีวิตของพี่น้องประชาชน
.
สำหรับการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวจะต้องมีการจัดการกับกลุ่มโรงงานที่นำกากขยะอุตสาหกรรมมากำจัดไม่ถูกวิธี เนื่องจากกลุ่มโรงงานเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการที่ทำอย่างถูกต้องไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากต้นทุนสูงกว่า เพราะกลุ่มบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎหมายเช่นนี้มีต้นทุนอย่างเดียวคือการติดสินบน
.
การแก้ไขปัญหาระยะยาวจะต้องทำโดยการร่างกฎหมายฉบับใหม่ ปัจจุบันการดำเนินคดีใช้ พรบ.วัตถุอันตราย ซึ่งกฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้ประกอบการที่ตั้งใจทำร้ายประเทศ ทำร้ายประชาชน
.
หรือการแก้ไขเพิ่มเติม พรบ.โรงงาน นั้นมีโอกาสที่ทำให้แนวคิดของกฎหมายดังกล่าวเกิดความสับสน โดยกฎหมายดังกล่าวน่าจะเป็นกฎหมายที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่ดีสามารถพัฒนาตนเองได้ และสามารถแข่งขันได้
.
จึงต้องมีการร่างกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งหลังจากการลงพื้นที่ที่โรงงานวิน โพเสส แล้วตนได้ตั้งคณะทำงานปรับปรุงกฎหมายเพื่อปฏิรูปอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันได้ยกร่างกฎหมายกำจัดกากอุตสาหกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะมีการกำหนดโทษให้ชัดเจนและรุนแรงพอ ประกอบกับให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการจับกุม การบริหารจัดการของกลางมีความยืดหยุ่น และมีการตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไม่ต้องรอของบกลางหรืองบประจำปี เพราะตามเจตนาคือการนำเงินของผู้กระทำความผิดมาจัดการปัญหาแทนที่จะใช้ภาษีจากหยาดเหงื่อของพี่น้องประชาชนผู้สุจริต