วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ส่งชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และเจ้าหน้าที่สมอ. ลงพื้นที่ตรวจโรงงานผลิต และโกดังเก็บสายไฟฟ้าในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พบสายไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานถูกจำหน่ายปะปนอยู่ในท้องตลาด ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน
.
“ได้รับรายงานจากชุดตรวจการสุดซอยว่า ตรวจพบสายไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่ในกระบวนการผลิตของโรงงาน รวมถึงมีจัดเก็บอยู่ในโกดังเป็นจำนวนมาก สามารถตรวจยึดของกลางจำนวน 63,855 ม้วน คิดเป็นมูลค่าถึง 65 ล้านบาท โดยผมได้กำชับให้ดำเนินคดีทางอาญาให้ถึงที่สุดด้วย เพราะการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานคุณภาพ โดยเฉพาะสายไฟฟ้าแบบนี้อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ สร้างความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนอย่างร้ายแรง“ นายเอกนัฏ ระบุ
.
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ สมอ.ได้สุ่มตรวจในห้างโมเดิร์นเทรด และร้านจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าตามท้องตลาด พบสายไฟฟ้าอย่างน้อย 4 ยี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่กลับติดตราสัญลักษณ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จึงได้ทำการขยายผลจากสถานที่จัดจำหน่ายจนถึงโรงงานผู้ผลิตและโกดัง ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบสายไฟฟ้าประเภท THW IEC01, VAF, VCT และ VKF เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ทุกขนาด ทุกประเภท และทุกยี่ห้อรวม 52 ตัวอย่าง ส่งตรวจสอบที่สถาบันไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อทดสอบเฉพาะรายการความต้านทานไฟฟ้าของแต่ละตัวนำไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นรายการสำคัญที่จะส่งผลถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
.
“ปรากฏว่าสายไฟฟ้าที่ส่งทดสอบทั้งหมด 52 ตัวอย่าง ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตาม และฝ่าฝืนพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการยึดอายัดสายไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งหมด และสั่งให้โรงงานตรวจเช็กจำนวนสินค้าที่ส่งไป วางจำหน่ายในท้องตลาด และให้เรียกสินค้าทั้งหมดกลับคืนมาเพื่อยึดอายัดเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และส่งฟ้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป” น.ส.ฐิติภัสร์ระบุ
.
“ได้รับรายงานจากชุดตรวจการสุดซอยว่า ตรวจพบสายไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่ในกระบวนการผลิตของโรงงาน รวมถึงมีจัดเก็บอยู่ในโกดังเป็นจำนวนมาก สามารถตรวจยึดของกลางจำนวน 63,855 ม้วน คิดเป็นมูลค่าถึง 65 ล้านบาท โดยผมได้กำชับให้ดำเนินคดีทางอาญาให้ถึงที่สุดด้วย เพราะการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานคุณภาพ โดยเฉพาะสายไฟฟ้าแบบนี้อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ สร้างความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนอย่างร้ายแรง“ นายเอกนัฏ ระบุ
.
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ สมอ.ได้สุ่มตรวจในห้างโมเดิร์นเทรด และร้านจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าตามท้องตลาด พบสายไฟฟ้าอย่างน้อย 4 ยี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่กลับติดตราสัญลักษณ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จึงได้ทำการขยายผลจากสถานที่จัดจำหน่ายจนถึงโรงงานผู้ผลิตและโกดัง ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบสายไฟฟ้าประเภท THW IEC01, VAF, VCT และ VKF เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ทุกขนาด ทุกประเภท และทุกยี่ห้อรวม 52 ตัวอย่าง ส่งตรวจสอบที่สถาบันไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อทดสอบเฉพาะรายการความต้านทานไฟฟ้าของแต่ละตัวนำไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นรายการสำคัญที่จะส่งผลถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
.
“ปรากฏว่าสายไฟฟ้าที่ส่งทดสอบทั้งหมด 52 ตัวอย่าง ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตาม และฝ่าฝืนพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการยึดอายัดสายไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งหมด และสั่งให้โรงงานตรวจเช็กจำนวนสินค้าที่ส่งไป วางจำหน่ายในท้องตลาด และให้เรียกสินค้าทั้งหมดกลับคืนมาเพื่อยึดอายัดเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และส่งฟ้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป” น.ส.ฐิติภัสร์ระบุ